TED Fund ติดอาวุธทางปัญญา พร้อม Reskill & Upskill ผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนทุน ผ่านหลักสูตร “พัฒนาศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการทางเทคโนโลยี”
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ TED Fund หน่วยงานสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม จัดอบรมหลักสูตร “พัฒนาศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการทางเทคโนโลยี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มุ่งต่อยอดองค์ความรู้ผู้ประกอบการ สู่การพัฒนานวัตกรรมเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศให้ก้าวหน้าตามนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนฐานเศรษฐิจด้วยนวัตกรรม
ระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน 2563 ณ ห้องแกรนด์รัชดา ชั้น 5 โรงแรมรามาดา บายวินแดม แบงคอก เจ้าพระยาปาร์ค กทม. : กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดอบรมหลักสูตร “พัฒนาศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการทางเทคโนโลยี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยมีผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนทุนจากโครงการ Public Bacht 3 / โครงการฯ รุ่นเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ /โครงการฯ รุ่นเครือข่ายปริญญาโท-เอก และโครงการยุววิสาหกิจเริ่มต้น (Youth Startup Fund) ภายใต้โปรแกรม “การพัฒนาแนวคิดเพื่อสร้างรูปแบบธุรกิจนวัตกรรม (Ideation Incentive Program)” และโปรแกรม “การเริ่มต้นสร้างธุรกิจนวัตกรรม (Pre-seed)” เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้ จำนวนกว่า 50 โครงการ
นายชาญวิทย์ ตรีเดช ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม กล่าวว่า กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ TED Fund เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาทักษะของผู้ประกอบการให้สามารถบริหารธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้ประสบความสำเร็จ จึงได้กำหนดจัดอบรมหลักสูตร “พัฒนาศักยภาพการเป็นผู้ประกอบการทางเทคโนโลยี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ขึ้น สำหรับผู้ประกอบการที่ผ่านการอนุมัติข้อเสนอโครงการและได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนฯ ตามหลักเกณฑ์ ให้เป็นผู้ประกอบการทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีศักยภาพ สามารถนำความรู้ที่ได้รับ มาปรับใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความแข็งแกร่งสู่การพัฒนานวัตกรรมเชิงพาณิชย์ที่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งการจัดอบรมในครั้งนี้ ยังก่อให้เกิดเครือข่ายผู้ประกอบการทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะเป็นกลุ่มพลังขับเคลื่อนเทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป