วันที่ 10 กันยายน 2563 ตัวแทนชาวบ้านและผู้พักอาศัยในคอนโดย่านซอยสุขุมวิท 50 ได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือคัดค้านผลการพิจารณาที่ไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับกรณีการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการโรงแรม อินน์ไซด์ กรุงเทพ สุขุมวิท (Innside Bangkok Sukhumvit) ต่อ ดร. รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มอบหมายให้ ดร. พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช รองเลขาธิการ เป็นผู้แทนรับหนังสือคัดค้านดังกล่าว โดยมีใจความสำคัญดังนี้
- บริษัท โปร เอ็น เทคโนโลยี จำกัด ผู้จัดทำรายงานของโครงการ จงใจหลีกเลี่ยงไม่ต้องการจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียในระยะประชิดมาตั้งแต่ต้น มีการยื่นขอความเห็นชอบรายงาน EIA ต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน กรุงเทพมหานคร (คชก.กทม.) อย่างเป็นทางการไปทั้งที่ยังไม่เคยลงมาสำรวจความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและชุมชนเป็นกิจจะลักษณะ นอกจากนี้ ผู้มีส่วนได้เสียไม่เคยได้รับทราบรายละเอียดโครงการเชิงลึกและไม่เคยได้รับโอกาสแสดงความคิดเห็น/ข้อห่วงกังวลต่อทางเลือกโครงการตลอดจนมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมแม้แต่ครั้งเดียว โดยพบความผิดปกติไม่ชอบมาพากลรวบรัดข้ามขั้นตอนกระบวนการตามกฎหมายแทบทุกขั้นตอน
- ผู้จัดทำรายงานมีการสำรวจความคิดเห็นประชาชนบางส่วนที่ปรากฏในรายงาน EIA ซึ่งมีพยานหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ควรจะเป็นเวลาภายหลังจากที่ คชก.กทม. ได้ให้ความเห็นชอบรายงาน EIA ไปแล้ว
- ผู้จัดทำรายงานกระทำผิดหน้าที่ ผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ มุ่งหวังแต่ประโยชน์ของตน จัดทำรายงานอันเป็นเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริงในรายงาน EIA ที่นำเสนอต่อ คชก.กทม. ด้วยการให้ข้อความอันเป็นเท็จและจงใจปกปิดข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญที่ควรจะต้องนำเสนอต่อ คชก.กทม. และระบุไว้ในรายงาน EIA อย่างตรงไปตรงมา
ในขณะเดียวกัน ก็ปกปิดการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้องตามความจริงแก่ประชาชนผู้มีส่วนได้เสียด้วย
ทั้งนี้ จึงเห็นว่า เรื่องนี้ คชก.กทม. ย่อมไม่มีอำนาจให้ความเห็นชอบโดยชอบด้วยกฎหมายได้ เพราะผิดกฎหมายชัดเจน ไม่ใช่เรื่องข้อบกพร่องทางธุรการเล็กน้อย แทนที่ คชก.กทม. และสผ. จะเพิกถอนความเห็นชอบรายงานและใบอนุญาตผู้จัดทำรายงานเหมือนดังเช่นกรณีการเพิกถอนใบอนุญาตผู้มีสิทธิจัดทำรายงาน EIA อันเป็นเท็จของโครงการใหญ่แห่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งมีมูลประเด็นการกระทำผิดแบบเดียวกัน แต่กลับละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่ที่ควรจะเป็นในกรณีนี้ด้วยการร่วมกันพิจารณาว่าเป็นเพียงข้อบกพร่องทางธุรการ ไม่เข้าข่ายรายงานเท็จ
ในระหว่างการพิจารณากว่า 9 เดือนที่ผ่านมา ทั้งสองหน่วยงานเลือกรับฟังข้อแก้ตัวของโครงการเพียงด้านเดียว โดยไม่สนใจต่อข้อโต้แย้งคัดค้านและพยานหลักฐานสนับสนุนชัดเจนของผู้ร้องเรียน ไม่เคยเปิดโอกาสหรือเรียกให้ผู้ร้องเรียนเข้าไปสอบถามชี้แจงข้อมูลความจริงในอีกด้านหนึ่งแม้แต่ครั้งเดียว การเดินทางมาในครั้งนี้ต้องการเรียกร้องความถูกต้องและความเป็นธรรมเพื่อขอให้มีการเริ่มต้นกระบวนการจัดทำรายงาน EIA ใหม่โดยรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสียให้ถูกต้องตรงไปตรงมาตามที่กฎหมายกำหนด เพราะการก่อสร้างโครงการดังกล่าวจะสร้างผลกระทบทั้งในระยะสั้นและระยะยาวตลอดไปให้แก่ผู้อยู่อาศัยในระยะประชิดอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงยืนกรานสนับสนุนความไม่ถูกต้อง ชาวบ้านก็จะร่วมกันยื่นฟ้องต่อศาลปกครองรวมทั้งยกระดับการร้องเรียนต่อหน่วยงานอื่นๆ ต่อไป