สุดเจ๋งนศ.ปี1บริหาร ม.หอการค้าไทย คิดค้นนวัตกรรมผลิตผ้าอนามัยแมงกะพรุนย่อยสลายธรรมชาติ 30 วัน จากที่มหาวิทยาลัยหอกาค้าไทย คณะบริหารธุรกิจได้มีการ จัดโครงการ “Jellyfish Innovation คิดแนวๆแบบหัวการค้า” เพื่อให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ระดมความคิดที่มีความสร้างสรรค์จากเด็กรุ่นใหม่ คิดค้นและสร้างนวัตกรรมที่แปลกใหม่และแตกต่างจากเดิมที่เคยมี โดยโจทย์คือต้องนำวัตถุดิบที่เป็นแมงกะพรุนมาต่อยอดและแปรรูปขึ้นใหม่อีกทั้งยังสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนในสาขาการตลาดมาประยุกต์ใช้ในการสร้างแผนธุรกิจเพื่อชิงทุนการศึกษาเพื่อนำไปต่อยอดให้กับแผนธุรกิจของตนเองมูลค่ากว่า 1 แสนบาท
ทีมผลิตภัณฑ์ “ผ้าอนามัยแมงกะพรุน” ประกอบด้วย นางสาววิริวรี จรัสวงศ์, นางสาวนทพร ศรีชนะ, นายกฤตภาส แซ่เตียว และนายกิตติภูมิ หัวเมืองแก้ว นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด ชั้นปีที่1 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คิดค้นนวัตกรรมผ้าอนามัยแมงกะพรุนที่มีคุณสมบัติพิเศ สามารถอุ้มน้ำได้ดี ย่อยสลายง่ายเพราะมีส่วนผสมจากธรรมชาติโดยสกัดได้จากแมงกะพรุน ถือว่าได้เป็นผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่และมีความเป็นออร์แกนิกช่วยใลดขยะให้กับโลกได้เนื่องจากผ้าอนามัยนี้สามารถย่อยได้เองตามกรรมวิธีของธรรมชาติที่ไม่ต้องใช้เครื่องจักรหรือการเผาเข้ามาช่วย
นางสาวสิริวรี จรัสวงศ์ และนางสาวนทพร ศรีชนะ เจ้าของผลิตภัณฑ์ “ผ้าอนามัยแมงกะพรุน” คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยหอกาค้าไทย เล่าว่า “ที่มาของผลิตภัณฑ์นี้มาจากการที่เราได้เข้าร่วมโครงการ “Jellyfish Innovation คิดแนวๆแบบหัวการค้า” และโจทย์คือต้องคิดค้นหาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมที่แปลกใหม่และสร้างมาจากวัตถุดิบหลักคือแมงกะพรุน
ทางกลุ่มก็ได้มีการได้ค้นคว้าหาข้อมูลและความรู้เพิ่มเติมจนได้พบว่า นวัตกรรมที่นำแมงกะพรุนมาผลิตเป็นผ้าอนามัยนั้นเป็นสิ่งที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน จึงมองว่ามีความแปลกใหม่และน่าสนใจก็เลยคิดที่จะทำทันที จากการที่ได้ศึกษาเพิ่มเติมทำให้ทราบว่าข้อดีของสารสกัดที่ได้จากแมงกะพรุนนั้น เมื่อนำมาทำเป็นผ้าอนามัยแล้วคุณสมบัติจะสามารถอุ้มน้ำได้ดีกว่าผ้าอนามัยทั่วไป
จึงทำให้ผู้ใช้นั้นไม่จำเป็นต้องเข้าห้องน้ำเพื่อไปเปลี่ยนบ่อยครั้ง และด้วยความที่เป็นสารสกัดจากแมงกะพรุนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จึงทำให้ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีใดใดทั้งสิ้น ไม่เป็นอันตรายต่อจุดซ่อนเร้นแน่นอน นอกจากนี้การที่ไม่มีส่วนผสมของพลาสติกส่งผลให้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติโดยใช้เวลาเพียงแค่ 30 วัน จึงถือได้ว่าตอบโจทย์ความต้องการของพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคที่คนหันมาใส่ใจในการรักษ์โลกมากขึ้นอย่างแน่นอน”
นายกฤตภาส แซ่เตียว และนายกิตติภูมิ หัวเมืองแก้ว เจ้าของผลิตภัณฑ์ “ผ้าอนามัยแมงกะพรุน” คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยหอกาค้าไทย เปิดเผยว่า “อุปสรรคในการคิดค้นนั้นอย่างแรกคิดสินค้าต้นแบบครั้งนี้ เพราะทีมงานไม่สามารถผลิตขึ้นมาได้ เนื่องจากมีหลายขั้นตอนที่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายมากพอสมควร
แต่ทียังมีความหวังว่าจะมีผู้ใหญ่มอบโอกาสและทุนสนับสนุนในการทำผลิตภัณฑ์นี้ให้เกิดขึ้นจริงได้ เนื่องจากมันเป็นนวัตกรรมที่แปลกใหม่และยังไม่มีใครทำ นอกจากการที่เราได้คิดค้นผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมาแล้ว ในเรื่องการทำแผนธุรกิจการจัดการราคา วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าได้นำความรู้ที่เรียนในห้องเรียนมาผลิตสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
เพื่อที่สินค้าของเราจะได้ขายได้ รวมทั้งวิเคราะห์หาช่องทางการจัดจำหน่ายให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเหมาะสม และในส่วนของการทำการตลาดเราจะเลือกค้าปลีกหรือค้าส่งเป็นหลักรวมไปถึงการจัดการราคาให้ได้มาซึ่งผลกำไรเมื่อหักต้นทุนในการผลิตแล้วยังไงให้คุ้มค่าที่สุด”
“แต่ถ้าผลิตภัณฑ์ออกมาประสบความสำเร็จจริง ๆ ก็จะมีการคิดค้นรูปแบบผ้าอนามัยให้มีความหลากหลายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้งาน กลิ่น หรือสรรพคุณเฉพาะด้านที่ต้องการเสริมจากสรรพคุณเดิมที่มีอยู่แล้วให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้าได้มีสิทธิ์เลือกมากกว่านี้
ด้วยความที่ผ้าอนามัยของเรามีสรรพคุณที่โดดเด่นในเรื่องของการอุ้มน้ำได้ดีเราก็อยากจะพัฒนาต่อยอดให้เป็นแพมเพิสเด็กทารกเนื่องจากเด็กนั้นมีการปัสสาวะบ่อย แต่ว่าทางทีมก็ต้องมีการวิจัยที่มากขึ้น เพราะด้วยความที่เป็นเด็กผิวค่อนข้างบอบบาง เราก็ต้องดูสารสกัดให้มันอ่อนโยนต่อผิวมากที่สุดและเชื่อมั่นว่าต้องออกมาประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน” นางสาวสิริวรี กล่าวทิ้งท้าย