กลุ่มทุนเชียงใหม่ศิริปันนากรุ๊ป เจ้าของโรงแรม “ศิริปันนา” บุกเมืองกรุงแจ้งเกิดคอนโดฯโลว์ไรส์ “ONEDER KASET”
(วันเดอร์ เกษตร) ติดถนนงามวงศ์วาน ใกล้ ม.เกษตร ห่างรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต แค่ 200 เมตร ปลื้มกระแสตอบรับดีสวนวิกฤติเศรษฐกิจขาลงและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ เปิดรอบ VVIP 2เดือนแรกมียอดจองแล้วกว่า 40% เจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง โชว์จุดขาย Facilities จัดเต็มมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 2ไร่ ขณะที่ราคาขายห้องชุดพร้อมเฟอร์นิเจอร์เริ่มต้น 1.59 ล้านบาท เฉลี่ย 9 หมื่นกว่าบาทต่อตารางเมตร
นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอกภูมิทรัพย์ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ในเครือศิริปันนากรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายพอร์ตการลงทุนจากธุรกิจโรงแรมที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่เข้ามาลงทุนตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ครั้งแรกเมื่อช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ด้วยการเปิดตัวโครงการ ONEDER KASET (วันเดอร์ เกษตร) พรีเมียมคอนโดฯบนที่ดินกว่า 4 ไร่ ในทำเลทองย่านงามวงศ์วาน มูลค่าโครงการกว่า 1,400 ล้านบาท ออกแบบเป็นอาคารโลว์ไรส์ 8 ชั้นทั้งหมด 3 อาคาร มีจำนวนห้องชุดรวม 585 ยูนิต โดยเริ่มเปิดรอบ VVIP ไปเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนปีที่ผ่านมา (2563)ได้รับกระแสการตอบรับค่อนข้างดี มียอดจองเข้ามาแล้วกว่า 40% ในช่วง 2 เดือนแรก ซึ่งถือว่าสวนกระแสตลาดคอนโดฯที่อยู่ในช่วงขาลง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19
เดิมครอบครัวกิจจาพิพัฒน์ทำธุรกิจโรงแรมอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่มากว่า 10 ปี ปัจจุบันมีโรงแรมที่บริหารอยู่ 3 แห่ง ประกอบด้วยโรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา ออกแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตำนานเวียงกุมกาม,โรงแรมศิริปันนา แกลอรี เชียงใหม่ และโรงแรมเอส ลอฟ เชียงใหม่ โดยในช่วงที่เกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 โรงแรมทั้ง 3 แห่งได้รับผลกระทบไปพอสมควร เพราะต้องปิดให้บริการตามคำสั่งของรัฐบาลช่วงที่มีการประกาศล็อคดาวน์ประเทศตั้งแต่เดือนเมษายนและเพิ่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงทุนเปิดตัวคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 2 โครงการตั้งอยู่บนถนนมหิดล ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าพรอมเมนาดา รีสอร์ท มอลล์ ซึ่งตอนนี้ปิดการขายไปหมดแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดขายโครงการเอกลักษณ์ สันทราย โครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยมสูง 3 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นกว่า 200 ตารางเมตร ราคา15 ล้านบาทขึ้นไป
ส่วนสาเหตุที่ขยายฐานการลงทุนเข้ามาในกรุงเทพฯ นายศุภมิตรกล่าวว่า บริษัทต้องการขยายพอร์ตการลงทุนของกลุ่มศิริปันนากรุ๊ปให้กว้างขึ้นและสร้างฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยมองว่ากรุงเทพฯมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายทั้งอายุและอาชีพ เมื่อเทียบกับฐานลูกค้าในต่างจังหวัดที่มีจำกัด ขณะเดียวกันกรุงเทพฯยังเป็นเมืองหลวงและเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ มีจำนวนประชากรที่ใช้ชีวิตหมุนเวียนมากกว่าจังหวัดอื่นซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของการเข้ามาลงทุน
โครงการ ONEDER KASET (วันเดอร์ เกษตร) ตั้งอยู่บนถนนงามวงศ์วานเป็นย่านชุมชนเมืองขนาดใหญ่ มีทั้งแหล่งงาน บ้านพักอาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย และที่สำคัญยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายแดง บางซื่อ-รังสิต ที่เตรียมจะเปิดทดลองให้ประชาชนนั่งฟรีในเดือนกรกฏาคมนี้ ก่อนจะเปิดให้บริการจริงในเดือนพฤศจิกายน โดยโครงการอยู่ห่างจากสถานีบางเขนประมาณ 200 เมตรเท่านั้น และในอนาคตบนถนนงามวงศ์วานจะเกิดแนวเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) โดยมีจุดเริ่มต้นจากแยกแครายวิ่งไปตามถนนงามวงศ์วาน ผ่านแยกพงษ์เพชร แยกบางเขน และแยกเกษตร
ดังนั้นลูกค้ากลุ่มหลักของโครงการฯจะเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ส่วนอีกกลุ่มจะป็นนักลงทุนเพื่อปล่อยเช่า เนื่องจากในรัศมีโดยรอบโครงการฯเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และโรงพยายาล มีทั้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต,นอร์ธปาร์ค,โรงพยาบาลวิภาวดี และศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ
โดยมีราคาขายห้องชุดเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 9 หมื่นกว่าบาท ถือเป็นราคาที่ต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับคอนโดฯที่อยู่ในย่านใกล้เคียงกัน ทำให้กลุ่มคนทำงานประจำหรืออาชีพอิสระที่มีรายได้ประมาณ 30,000 บาทขึ้นไปสามารถซื้อและเป็นเจ้าของห้องชุดได้ง่าย
“ที่ดินแปลงนี้เดิมบริษทวางแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดฯไฮไรส์ เพราะตำแหน่งที่ตั้งของโครงการอยู่ติดถนนใหญ่งามวงศ์วานสามารถพัฒนาเป็นตึกสูงได้ และที่สำคัญได้ผ่านการอนุมัติจากบอร์ดอีไอเอเรียบร้อยแล้ว แต่บริษัทได้ปรับมาเป็นอาคารโลว์ไรส์แทน เพราะมองว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเรียลดีมานด์ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง หากพัฒนาเป็นตึกไฮไรส์อาจจะไม่ตอบโจทย์ของลูกค้ากลุ่มนี้”
ที่สำคัญบริษัทต้องการสร้างดีเอ็นเอของแบรนด์ศิริปันนาให้เป็นที่รู้จักของลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่มีจุดขายเกี่ยวกับพื้นที่สวนส่วนกลางขนาดใหญ่และความร่มรื่นของโครงการ ดังนั้นบริษัทฯจึงได้ปรับผังโครงการใหม่เป็นตึกโลว์ไรส์ 8 ชั้น และเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่เกือบ 2 ไร่ กระจายอยู่รอบโครงการ โดยเฉพาะพื้นที่สวนขนาด 1 ไร่ที่อยู่ตรงกลางระหว่างอาคารทั้ง 3 ตึก
โครงการมีห้องชุดให้เลือกตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้จริงถึง 3 แบบ โดยเฉพาะห้องชุดแบบสตูดิโอที่มีจำนวนห้องชุดมากที่สุด ขนาดพื้นที่ใช้สอย 21.50-25.35 ตารางเมตร ออกแบบฟังก์ชั่นมุมพักผ่อนแยกออกจากห้องครัวและห้องแต่งตัว นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 27.95-28.85 ตารางเมตร จัดวางตำแหน่งของห้องครัวให้อยู่ติดกับระเบียง เพื่อช่วยระบายอากาศ และห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พลัส ซึ่งมีประมาณ 15% ของห้องชุดทั้งหมด ขนาดพื้นที่ใช้สอย 35-36 ตารางเมตร มีพื้นที่ Multi-purpose ที่ปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนเล็กหรือห้องทำงานได้ ส่วนห้องน้ำสามารถเข้า-ออก
ได้จาก 2 ทาง
โครงการฯออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Oneders of The World – Fill Your World Wonder” อัดแน่นไปด้วยความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก ที่ถูกถ่ายทอดผ่านงานสถาปัตยกรรมในรูปแบบของเส้นสาย องค์ประกอบ สีสัน และวัสดุ อันเป็นเอกลักษณ์ของทั้ง 3 อาคาร
โดยแต่ละอาคารจะมี Facilities เป็นของตัวเอง นอกจากนี้โครงการยังสร้างความมหัศจรรย์ที่ทำให้ดูน่าค้นหายิ่งขึ้นผ่าน 7 Wonder I like about “ONEDER KASET” ซึ่งประกอบไปด้วย
–Wonder of wonder โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
–Wonder of location ติดถนนใหญ่งามวงศ์วาน ตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้กับการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน โรงพยาบาลวิภาวดี
–Wonder of transport ที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต สถานี บางเขน 200 เมตร เชื่อมต่อกับถนนแจ้งวัฒนะ ถนนวิภาวดีรังสิต ทางด่วนศรีรัช และดอนเมืองโทลเวย์
-Wonder of lifestyle แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ แหล่งงาน ร้านค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ 24 ชั่วโมง
–Wonder of facility พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่เกือบ 2 ไร่ ที่รู้ใจ New Generation พื้นที่สวน 1 ไร่ ถูกออกแบบให้เหมือนอยู่ใน Wonderland
–Wonder of space ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม คำนึงเรื่องฟังก์ชั่น และพื้นที่การใช้งานในทุกรายละเอียด
-Wonder of furnishing เฟอร์นิเจอร์ครบ จบที่เดียว ขณะนี้โครงการวันเดอร์ เกษตร อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการฯและส่งมอบห้องชุดให้กับลูกค้าได้ประมาณช่วงครึ่งหลังของปี 2565
โดยโครงการเตรียมจัดงานรอบ Soft Opening ในวันที่ 27 – 28 มีนาคม 2564 ผู้เข้าร่วมงานมีสิทธิ์ลุ้นรับ จี้เพชรจากJubilee มูลค่ากว่า 20,000 บาท และเตรียมเปิดจองรอบ Presale วันที่ 15-16 พฤษภาคม 2564 ลุ้นรับของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ในงาน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 062-3242626หรือลงทะเบียน https://www.onedercondo.com