สสส.ดัน “อัมพวาโมเดล” จับมือ 29 โรงเรียนนำร่อง สวมหมวกนิรภัย100% นำคณะวิทยากรจากกองบังคับการตำรวจจราจร ลงพื้นที่จัดกิจกรรมสร้างการเรียนรู้ ปลูกฝังวินัยจราจร ด้านผบ.ก.ภ.จว.สมุทรสงคราม วอนประชาชนร่วมรักษาวินัยจราจร เคร่งครัดกับชีวิตวิถีใหม่ วันหยุดยาวช่วงสงกรานต์
วันนี้ (7 เมษายน 2564) ที่ห้องประชุมใหญ่อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการ “เด็กอัมพวา…สวมหมวกนิรภัย รู้วินัยจราจร” โดยมีนายศราวิช ด้วงสีทอง ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภออัมพวา และ พ.ต.อ.เผด็จ ภู่บุปผากาญจน ผกก.สภ.อัมพวา ร่วมงาน จัดโดย เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว สถานีตำรวจภูธรอัมพวา คณะทำงานอัมพวาโมเดล และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
โดยภายในงานมีการมอบหมวกนิรภัย นำร่องให้กับโรงเรียนในพื้นที่อัมพวา 29 โรงเรียน จำนวน 600 ใบ และยังมีคณะวิทยากรจากกองบังคับการตำรวจจราจร มาร่วมจัดกระบวนการสร้างวินัยจราจรรู้ให้กับตัวแทนเด็กนักเรียน
พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า ประเทศไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก ติดอันดับ 1 ของเอเชีย และการเสียชีวิตอันดับ1 เกิดจากรถจักรยานยนต์ การร่วมกันลดอุบัติเหตุเจ็บตายบนท้องถนน จำเป็นต้องช่วยกันทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ประชาชน ส่วนผู้บังคับใช้กฎหมายเอง ต้องเข้มงวดตรวจจับตรงไปตรงมา
สำหรับกิจกรรมวันนี้นอกจากจากเป็นการมอบหมวกนิรภัยให้กับโรงเรียนทั้ง 29 แห่งแล้ว ยังมีวิทยากรจากกองบังคับการตำรวจจราจร มาให้ความรู้เรื่องวินัยจราจร ถือเป็นการสร้างความตระหนักในการใช้ถนนอย่างปลอดภัยให้กับเด็กๆ ที่จะต้องเริ่มจากการสวมหมวกนิรภัย เมื่อต้องซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ อย่างน้อยเพื่อลดการบาดเจ็บที่รุนแรงหากเกิดอุบัติเหตุ และเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่ทั้งผู้ขับและผู้ซ้อน
“กิจกรรมครั้งนี้ ต้องการให้ความรู้ สร้างวินัย และเซฟชีวิตของเด็กๆ ให้เขาได้ถ่ายทอดไปยังผู้ปกครอง หรือชักจูงเพื่อน สู่การขยายผลไปทั้งจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อให้อุบัติเหตุลดลง ทั้งนี้ในส่วนของมาตรการรับมือช่วงสงกราต์ที่ใกล้เข้ามาถึงนี้ ทางจังหวัดได้มีการตั้งด่าน กวดขันวินัยจราจร ตรวจวัดแอลกอฮอล์มาตรการต่างๆต้องเข้มข้น
อยากฝากว่า โควิด-19 เป็นอีกเรื่องที่สำคัญและปัญหานี้ยังไม่จบ การใช้ชีวิตวิถีใหม่อย่างเคร่งครัด ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ต้องยึดถือปฏิบัติ อดทนร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้ และขอให้ทุกคนปลอดภัย มีความสุขในช่วงสงกรานต์ เดินทางปลอดภัยรักษาวินัยจราจร ดื่มไม่ขับ” พล.ต.ต.สุเมธ กล่าว
นายศราวิช ด้วงสีทอง ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทนนายอำเภออัมพวา กล่าวว่า ขอขอบคุณทาง สสส. ที่เลือกพื้นที่อัมพวาในการรณรงค์และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ มาต่อเนื่องเป็นปีที่สอง โครงการ“อัมพวาสวมหมวกนิรภัย รู้วินัยจราจร” สะท้อนความใส่ใจ ความปลอดภัย จากอุบัติเหตุทางถนนของเด็กๆและทุกคนในพื้นที่ ต้องขอขอบคุณท่าน ผกก.สภ.อัมพวา พ.ต.อ.เผด็จ ภู่บุปผากาญจน ที่เป็นแกนสำคัญทำงานอัมพวาโมดลมาโดยตลอด
“อัมพวาเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดของจังหวัดสมุทรสงคราม และถือเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีความเป็นธรรมชาติ มีอาหารพื้นบ้าน ของฝาก และวัดสำคัญๆ ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม ช่วงการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความเป็นอยู่ของชาวอัมพวาซบเซา ยากลำบาก
จึงอยากใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้ทุกคน เดินทางมาท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยที่อัมพวาให้มากขึ้น แต่ยังคงเคร่งครัดกับมาตรการต่างๆของภาครัฐโดยเฉพาะชีวิตวิถีใหม่ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ คัดกรองวัดอุณหภูมิ สแกนไทยชนะ เป็นต้น” ปลัดอาวุโส กล่าว
ด้านนางสาวเครือมาศ ศรีจันทร์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต กล่าวว่า ข้อมูลจากกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ปี 2554-2562 พบเด็กและเยาวชนไทยอายุ 10-19 ปี จำนวน 26,126 คนหรือเฉลี่ยปีละ 2,902 คนเสียชีวิตจากการอุบัติเหตุทางถนน
ซึ่งไทยมีสัดส่วนการเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์สูงถึงร้อยละ 80 และเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 60 เด็กไทยใช้เวลาเฉลี่ย 60 นาทีต่อวันในการเดินทางระหว่างบ้านและโรงเรียน หรือ 200 ชั่วโมงต่อปี คำว่า”ไปใกล้ ๆ แค่นี้เอง” โดยไม่ใส่หมวกนิรภัย ทำให้เด็กไทยอายุต่ำกว่า 20 ปีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางถนนกว่า 3,000 คนและบาดเจ็บกว่า 72,000 คนต่อปี
และข้อมูลที่น่าตกใจเมื่อพบว่า มีเด็กไทยเพียงแค่ 8% เท่านั้นที่สวมหมวกนิรภัย ส่วนกิจกรรมครั้งนี้ ต้องการส่งเสริมพฤติกรรม การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยให้กับเด็กๆ ลูกหลานประชาชนชาวอัมพวา และร่วมสร้างความตระหนัก การสวมหมวกนิรภัย=วัคซีน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนน