สสว. จัดประกวดสุดยอด SME แห่งชาติครั้งที่ 13 มอบรางวัล New Normal ผนึกกำลังผู้ประกอบการสู้โควิด – 19
จากการระบาดของไวรัสโคโรน่าโควิด -19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเอสเอ็มอีทั่วประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจเอสเอ็มอี ไตรมาส 1 ปี 2564 คาดว่าจะติดลบร้อยละ 4.8 ผลกระทบการระบาดรอบใหม่ทำให้กระทบต่อรายได้ ภาระหนี้ ทำให้ตัวเลขปิดกิจการไตรมาสแรกปี 2564 มีประมาณ 20,000 ราย
สะท้อนจากตัวเลขลูกจ้างที่ขอชดเชยจากประกันสังคม สูงร้อยละ 200 -300 หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยต่อสู้กับวิกฤตครั้งนี้ สสว.ยังคงเดินหน้าจัดประกวดสุดยอด SME แห่งชาติครั้งที่ 13 พร้อมมอบรางวัลประเภท SME New Normal ให้กับเอสเอ็มอีที่บริหารจัดการภาวะวิกฤตได้ตรงตามเกณฑ์มาตรฐานของปีนี้
นาย วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า “โครงการ SME National Awards ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 13 ต้องการให้ SME ประเทศไทยเข้ามามีบทบาทส่วนร่วมอย่างจริงจัง โดยช่วงภาวะวิกฤตไวรัสโคโรน่าโควิด – 19 ทำให้ผู้ประกอบการบางรายประสบปัญหาด้านยอดขาย ปัญหาต้นทุนสูงไม่พอกับรายจ่าย หรือปัญหาการบริหารจัดการที่ไม่สามารถเป็นไปตามแผนการ ฯลฯ กลไกลและเครื่องมือสำคัญของโครงการประกวดสามารถเข้ามาช่วยเติมเต็มตรวจสอบการดำเนินการธุรกิจผู้ประกอบการได้อย่างมีมาตรฐาน สร้างต้นแบบให้ผู้ประกอบการได้รับรู้ถึงการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากน้อยอย่างไร
เพราะฉะนั้นในสภาวะวิกฤตโควิด – 19 ผู้ประกอบการไทยต้องกลับมาทบทวนธุรกิจผ่านกระบวนโครงการ SME National Awards จะช่วยให้ท่านมองเห็นศักยภาพของตนเองและก็มองเห็นปัญหาต่างๆ สามารถแก้ไขได้ตรงจุด เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถศึกษาเรื่องการพัฒนาและปรับปรุงตนเองให้ถูกจุดรวมถึงการทำงานอย่างมีมาตรฐานตอบรับกันในทุกมิติ เมื่อธุรกิจผู้เข้าร่วมประกวดโครงการครั้งนี้สามารถบริหารจัดการในภาวะวิกฤตทำคะแนนได้เกินมาตรฐานล้วนมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัล SME New Normal และรางวัลต่างๆอีกมากมาย”
นางสาวกฤศกัญญา เบญจาธิกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบโอเดอเนช จำกัด และเจ้าของรางวัล SME New Normal ปี พ.ศ. 2563 เปิดเผยว่า “บริษัท ไบโอเดอเนช จำกัด เป็นโรงงานผลิตเครื่องสำอาง OEM ในกลุ่มสกินแคร์ และ ผลิตภัณฑ์สปา มีพนักงานทั้งหมด 53 คน เหตุผลสำคัญในการเข้าร่วมประกวด คือ ต้องการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีแนวคิดในการวัดศักยภาพ ประสิทธิภาพและสรุปภาพรวมองค์กร 7 หมวด ซึ่งเป็นสิ่งที่เอสเอ็มไทยควรมี
เพราะการที่บริษัทสามารถสรุปภาพรวมองค์กร 7 หมวด สามารถทำให้บริษัทของเรามีทีมงานประเมินคุณภาพประจำองค์กร หากพบจุดบกพร่องสามารถวางแผนแก้ไขได้ทันที หัวใจสำคัญที่ทำให้บริษัทได้รับรางวัล SME New Normal ปีที่แล้ว ล้วนเกิดจากการประเมินความเสี่ยงที่ถูกวางนำมาใช้ในเวลานี้ โดยมีการเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจจากเน้นการเติบโตสู่การใช้เทคโนโลยีในการทำงานประมวลผล กลยุทธ์ด้านราคาและความแตกต่างของผลิตภัณฑ์เริ่มชัดเจนขึ้น
ซึ่งแน่นอนการเตรียมตัวมาจากการจัดการองค์ความรู้ภายในองค์กรให้ได้ บริษัทดำเนินธุรกิจมา 18 ปี พนักงานที่มีประสบการณ์ มีความรู้ และความเชี่ยวชาญและความชำนาญ ต้องจูงใจให้เกิดการปรับตัวเพื่อสู้วิกฤตโรคระบาดไปด้วยกัน จากพนักงานที่ขายรูปแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) สู่รายย่อยรูปแบบธุรกิจกับผู้บริโภคโดยตรง (B2C) มีการวางรูปแบบการทำงานใหม่ มีพนักงานบางส่วนทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) การจัดการตลาดออนไลน์ในฐานะแบรนด์ และการสร้างคุณค่าใหม่ให้กับสินค้า นวัตกรรมใหม่แม้ในวิกฤตก็ตาม
ทางบริษัทยึดมั่นว่าจะคงไว้ซึ่งพนักงาน แต่ขอปรับเปลี่ยนการทำงานโดยที่บริษัทผลิตสินค้าในรุ่นขนาดเล็ก หรือ แบบซอง เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าจาก B2B เป็น B2C ขายปลีกมากขึ้น ภายใต้แบรนด์ไทยครีม (THAICREAM) และหันมาใช้สารสกัดไทยที่สามารถซื้อในประเทศไทย เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศมีการคิดค้นและวิจัยพืชสมุนไพรมากขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าเราได้มากขึ้น และจากการพัฒนางานวิจัยนี้ลูกค้าที่สร้างแบรนด์กับเรา บริษัทมีการส่งเสริมการใช้พืชสมุนไพรและมีการทำงานร่วมกันจนทำให้แบรนด์ของลูกค้า สามารถใช้งานวิจัยที่บริษัทวิจัยขึ้น เพื่อสร้างและพัฒนาผลิตสินค้าจนทำให้บริษัทได้รับรางวัลนี้”
การประกวดรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ ครั้งที่ 13 ปีนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครได้ทางออนไลน์ โดยดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.smesnationalawards.com แล้วส่งไปยัง smenationalawards2021@gmail.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คุณนิชาภา จรูญโรจน์ ณ อยุธยา สอบถามเพิ่มเติ่ม โทร 081 152 2238 คุณพิพัฒน์ ศรีวลีธร โทร 081 152 2235 และติดตามได้ที่เฟซบุ๊ค : การประกวดรางวัลสุดยอด SME แห่งชาติ