SENA สตาร์ทเครื่องออกขายหุ้นกู้ 1,200 ลบ.ชูดอกเบี้ย4.40%ต่อปี ไม่หวือหวาแต่ขอโตอย่างยั่งยืน ลุยขายสถาบัน – รายใหญ่ เปิดดีลดีเดย์ 20 – 22 ก.ย.นี้ เผย Next Paradigm มุ่งเน้นลงทุนกระแสธุรกิจหลักเทรนด์อนาคต และดำเนินกิจการภายใต้หลักการ ESG ดีเวลลอปโปรดักส์ – การบริการที่ควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั้งแนวราบและแนวสูงและในฐานะ Developer รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ
เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ครั้งที่ 3/2564 โดยมีจำนวนหุ้นกู้ที่เสนอขายรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,200 ล้านบาท ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยหุ้นกู้มีอายุ 3 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.40% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
หุ้นกู้นี้เป็นหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยคาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 20 – 22 กันยายน 2564 ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 5 แห่ง อัน
ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด
วัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อเตรียมไว้สำหรับชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน และเพื่อชำระคืนเงินกู้ระยะยาวภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทั้งนี้จากสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันที่ค่อนข้างผันผวน
ทำให้บริษัทต้องมีการวางแผนการบริหารกระแสเงินสดด้วยความรอบคอบมากยิ่งขึ้น จึงได้มีการเสนอขายหุ้นกู้บางส่วนก่อนที่หุ้นกู้ชุดเดิมจะครบกำหนด เพื่อกระจายความเสี่ยงในกรณีที่ตลาดอาจมีความผันผวนสูงมากในอนาคต
ปัจจุบัน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้ ที่ระดับ “BBB” แนวโน้ม “Stable” สะท้อนถึงสถานะของธุรกิจที่มีความเข้มแข็งทางการเงิน และสามารถพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างเป็นไปตามเป้าหมาย
ทั้งโครงการในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด โดยเฉพาะทางพันธมิตรธุรกิจ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป พร้อมร่วมลงทุนในทุกโครงการของเสนา ทำให้บริษัทมียอดขายและยอดโอนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางของผลประกอบการที่ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดเจน
สำหรับทิศทางการดำเนินงานของบริษัทนั้นมีการทบทวนปรับลดแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้เหลือ 14 โครงการ มูลค่ารวม 10,565 ล้านบาท จากแผนเดิม 18 โครงการ มูลค่า 16,700 ล้านบาท
โดยในครึ่งปีแรก บริษัทเปิดโครงการใหม่ 1 โครงการ คือ โครงการ SENA KITH เวสต์เกต-บางบัวทอง และครึ่งปีหลังนี้ในไตรมาส 3/64 เปิดตัว 4 โครงการ มูลค่า 2.3 พันล้านบาท
ซึ่งได้เปิดโครงการ SENA KITH ลาดกระบัง-ฉลองกรุง เฟส 1 ไปแล้ว และเตรียมจะเปิดเฟส 2 ในเดือนก.ย.นี้ พร้อมกับอีก 2 โครงการที่เหลือส่วนไตรมาส 4/64 จะมีจำนวนโครงการที่เปิดตัวมากที่สุด 9 โครงการ มูลค่า 7,000 ล้านบาท
ที่ผ่านมาโครงการ แบรนด์ SENA KITH ที่ได้มีการเปิดตัวไปในช่วงที่ปีผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งนี้ ทางบริษัทคาดว่าในช่วงตั้งแต่เดือน ต.ค. 64 เป็นต้นไป หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะค่อยเริ่มฟื้น หลังจากผู้ซื้อเริ่มมั่นใจในสถานการณ์และกลับมาซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น
ขณะที่ยอดขายในปีนี้ ทางบริษัทปรับลดลงเหลือ 7,111 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 11,000 ล้านบาท หลังจากบริษัทตัดสินใจลดจำนวนการเปิดโครงการใหม่ โดยเลื่อนบางโครงการไปเปิดตัวในปี 2565 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 มีผลกระทบต่อกำลังซื้อ
โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค. 64) บริษัทสามารถทำยอดขายได้แล้ว 3,200 ล้านบาท ส่วนยอดโอนของบริษัทได้ปรับลดลงมาเหลือ 6,943 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 10,000ล้านบาท ทั้งนี้มองว่าจากผลกระทบของมาตรการปิดแคมป์คนงานที่ทำให้การโอนบางโครงการช่วงครึ่งปีหลังต้องเลื่อนออกไป
โดยเฉพาะ 2 โครงการ คือ โครงการ Nich Mono Mega Space บางนา มูลค่า 2,400 ล้านบาท และโครงการ Nich Mono อิสรภาพ มูลค่า 849 ล้านบาท ที่จะมีความล่าช้าในการโอนห้องให้กับลูกค้าไปบ้าง แต่จะเริ่มกลับมาทยอยโอนในช่วงปลายไตรมาส 3/64 ต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4/64
ปัจจุบันยอดรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ทั้งหมด 7,052 ล้านบาท สามารถรับรู้ในปีนี้ 3,689 ล้านบาท ที่ผ่านมาทางบริษัทได้มีการจัดแคมเปญเสนอราคาขายพิเศษ และแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเร่งระบายสต็อกออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้เข้ามาให้กับบริษัท
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการปรับแผนให้สอดรับกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของตลาดในปัจจุบันและอนาคต ที่มุ่งไปสู่การพัฒนาธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยนำหลักการของ ESG หรือ Environment, Social, Governance มาสู่การดำเนินงานทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการที่ควบคู่กับการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม
โดยไม่ได้คำนึงถึงการเติบโตทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แม้ว่าจะทำให้ต้นทุนของบริษัทจะเพิ่มสูงขึ้น แต่เป็นสิ่งที่ต้องลงทุนแต่ถือเป็นความคุ้มค่าในระยะยาวที่จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์เสนา ตามปรัชญาขององค์กร
“ความไว้วางใจจากลูกค้า คือ ความภูมิใจของเรา” ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้วางแนวทางการบริหารความเสี่ยง และได้เข้าไปช่วยเหลือในการเข้าถึงระบบสาธารณสุขตั้งแต่ ระดับ พนักงานภายในองค์กร ลูกค้า ลูกบ้าน พาร์ทเนอร์ และสังคม สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นขององค์กร ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมได้แท้จริง
สำหรับนักลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายทั้ง 5 แห่งดังนี้
Ø ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 (โดยผู้ลงทุนรายใหญ่ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Money Connect by Krungthai ได้อีก 1 ช่องทาง)
Ø ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 (บุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป CIMB Thai Digital Banking หรือ ที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา สำหรับนิติบุคคลสามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)
Ø บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) รวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-165-5555
Ø บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด โทร. 02-695-5000
Ø บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) โทร. 02-638-5500