นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ โครงการเพิ่มศักยภาพในการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ปีงบประมาณ 2564 กิจกรรมเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการออนไลน์ด้วยดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง
ซึ่ง สสว. มี 6 หน่วยงานพันธมิตรร่วมดำเนินการ ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ได้ปรับรูปแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ต้องงดการจัดงานแสดงสินค้าและเชิญชวนให้ผู้ประกอบการมาเปิดร้านค้าออนไลน์และจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย “ช้อปของดี SME ไทย ไฟต์โควิด”
โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยร่วมดำเนินการทั้งภาครัฐและเอกชน มีการระดมความรู้อบรมทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้แก่ผู้ประกอบการ รวมทั้งแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพอย่าง JD CENTRAL LAZADA และ SHOPEE ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการได้มีร้านค้าออนไลน์สร้างรายได้ในช่วงวิกฤตินี้ ร่วมกันดำเนินกิจกรรมต่างๆ
“ขอขอบคุณทุกหน่วยร่วมดำเนินการ และทุกแพลตฟอร์มที่ช่วยกันปรับรูปแบบกิจกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการได้มีร้านค้าออนไลน์ สร้างรายได้ในช่วงวิกฤตินี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอขอบคุณผู้ประกอบการทุกท่านกว่า 2,000 ราย นำสินค้ากว่า 100,000 รายการ เข้าร่วมแคมเปญพิเศษ “ช้อปของดี SME ไทย ไฟต์โควิด” สร้างยอดขายรวมกว่า 120 ล้านบาท ภายใต้สถานการณ์นี้ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า SME ของเรายังมีความเข้มแข็งพร้อมเดินหน้าฟันฝ่าอุปสรรค
ขณะที่ สสว. ก็จะอยู่เคียงข้าง คอยดูแล สนับสนุน และหาทางสร้างโอกาสในการพัฒนา SME ทั่วประเทศต่อไป” ผอ.สสว. กล่าว
ด้าน นายก่อลาภ สุวัชรังกูร ประธานบริหารฝ่ายการตลาด เจดีเซ็นทรัล ผู้นำด้านเทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย ที่เกิดจากความร่วมมือของสองยักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท เซ็นทรัลกรุ๊ป (Central Group) จำกัด บริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเจดีดอทคอม (JD.com) บริษัทค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน กล่าวว่า เจดีเซ็นทรัลยินดีอย่างมากที่ได้ร่วมมือกับ สสว. เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนโครงการ “ช้อปของดี SME ไทย ไฟต์โควิด”
ความร่วมมือนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันว่า เจดีเซ็นทรัล พร้อมให้การส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างจริงจัง และเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของแพลตฟอร์มเจดีเซ็นทรัลจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการกลุ่มเอสเอ็มอี ได้นำเสนอสินค้าดีมีคุณภาพไปยังกลุ่มลูกค้า เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ และเดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน
ขณะที่ นายวีระพงศ์ โก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซระดับโลกที่ขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานด้วยเทคโนโลยีระดับโลก กล่าวว่า การร่วมมือกับ สสว. ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการช่วยยกระดับเอสเอ็มอีทีไทยสู่การเป็นผู้ประกอบการดิจิทัล
แต่ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคไทยได้เข้าถึงสินค้าคุณภาพหลากรายการในราคาพิเศษถึงแม้ว่าจะต้องเก็บตัวอยู่บ้านในช่วงนี้ก็ตาม ลาซาด้าพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะนำศักยภาพแพลตฟอร์มและเครือข่ายโลจิสติกส์มาใช้ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยและผู้บริโภคต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
ด้านผู้แทน ช้อปปี้ (ประเทศไทย) ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน กล่าวว่า ช้อปปี้มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ สสว. ผลักดันแคมเปญพิเศษ “ช้อปของดี SME ไทย ไฟต์โควิด” มาตั้งแต่ช่วงเแรกของสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และได้ขยายระยะเวลาแคมเปญอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
โดยช้อปปี้พร้อมจะใช้ศักยภาพของแพลตฟอร์มของ Shopee ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานในทั่วประเทศ ช่วยส่งเสริมความมุ่งมั่นและตั้งใจของ สสว. ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านธุรกิจออนไลน์ให้กับผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ด้วยพันธกิจองค์กรของ Shopee ในการมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยผ่านเทคโนโลยี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันและเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่สำคัญนี้ได้อย่างแข็งแรงและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ แคมเปญ “ช้อปของดี SME ไทย ไฟต์โควิด” บนแพลตฟอร์มยักษ์ SHOPEE – LAZADA – JD CENTRAL จัดขึ้นระหว่าง 21 สิงหาคม – 20 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยมีกิจกรรมส่งเสริมการขาย ต่างๆ และการจำหน่ายสินค้าผ่าน Facebook และ Line ผ่านเว็บไซต์กลาง https://smeonline2021.com