ถ้า “มรดก คือ สิ่งมีค่า” ที่ทุกคนอยากเก็บรักษาไว้ให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน คงเช่นเดียวกับมรดกของแผ่นดิน ปัจจุบันประเทศไทยของเรามีสถานที่สำคัญ ๆ ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทั้งหมด 6 แห่ง แบ่งเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม 3 แห่ง และมรดกโลกทางธรรมชาติ 3 แห่ง ได้แก่
–เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ตาก และกาญจนบุรี ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2534
–เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร จังหวัดสุโขทัย ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2534
–นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2534
–แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2535
–ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ครอบคลุม 6 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ปราจีนบุรี บุรีรัมย์ สระแก้ว นครนายก และสระบุรี ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2548
และเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา กลุ่มป่าแก่งกระจาน ที่มีพื้นที่ธรรมชาติครอบคลุมถึง 3 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย
เพื่อเป็นการปกป้องพิทักษ์สมบัติทางวัฒนธรรม และธรรมชาติของโลก ยูเนสโกจึงเสนอให้จัดตั้งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติของโลกขึ้น โดยให้เป็นภารกิจร่วมกันของมนุษยชาติทั่วโลก จึงกำหนดให้วันที่ 16 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น ‘วันพิทักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติของโลก’
กลุ่มทรู ร่วมปลูกใจรักสิ่งแวดล้อม ขอนำภาพจากหนึ่งในมรดกโลกของไทย ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ณ จุดสกัดเขาสูงเขาแผงม้า จ.นครราชสีมา มาฝากกันครับ กับภาพ ‘บ้านหลังใหญ่’ ฝีมือของเด็กชายจอมทัพ เจริญลาภนำชัย ที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม ระดับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประเภทป่าไม้ ประจำปี 2564
จากโครงการปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การประกวดภาพถ่าย ‘สัตว์มีค่า ป่ามีคุณ’ จัดโดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ภาพนี้สะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ ของทั้งสัตว์ป่า และป่าไม้ ที่อยู่รวมกันอย่างสมดุล เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติทรงคุณค่า ที่เราต้องหวงแหน และปกป้องรักษาส่งต่อรุ่นสู่รุ่น เพื่อเป็นสมบัติของชาติ และของโลกสืบต่อไป