จุรินทร์ นำ พาณิชย์ ปั้น “Soft Power” เงินสะพัดงานแรกปี 65 กว่า 815 ล้านบาท

สำเร็จ! จุรินทร์ นำ พาณิชย์ ปั้น “Soft Power” ประเทศไทย เฮ! Netflix, WeTV, iQiyi ,VIU “แห่ซื้อคอนเทนต์ไทย” เงินสะพัดงานแรกปี 65 กว่า 815 ล้านบาทแล้ว

6 ก.พ. 2565 เวลา 9.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเวทีเจรจาธุรกิจภาพยนตร์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในโครงการ Content Pitching ธุรกิจภาพยนตร์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ภายใต้นโยบายยุทธศาสตร์ Soft Power เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

โดยได้เป็นเป็นประธานเปิดไปนั้น ล่าสุดกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์รายงานความสำเร็จเบื้องต้นคือทะลุเป้าที่ตั้งไว้ในงานแรกของปีนี้ ” นับเป็นก้าวแรกของความสำเร็จในการผลักดัน ซอพ พาวเวอร์ ผ่าน ภาพยนตร์ แอนิเมชั่นและดิจิตอลคอนเทนท์ของไทย ตามนโยบาย ปี 65 โดยผู้เจรจาจากบริษัทฝั่งไทยสามารถสร้างรายได้รวมกว่า 815 ล้าน ” นายจุรินทร์ กล่าว

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวด้วยว่างานนี้นับเป็นครั้งแรกในการดึงผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงชื่อดังอย่าง Netflix, WeTV, iQiyi และ VIU เจรจาการค้ากับผู้ประกอบการไทย 15 บริษัท จนสามารถโกยรายได้รวมกว่า 815 ล้านบาท ซึ่งได้มอบนโยบายผลักดันให้ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ตามแนวคิด Creative Economy และส่งเสริมให้ไทยเป็น Hub ของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์

ซึ่งเป็นนโยบายสืบเนื่องจากปี 2564 ที่ให้ไว้และปีนี้ 2565 ให้มุ่งเน้นการส่งเสริม Soft Power ให้ไทยให้ผงาดได้ในตลาดโลก โดยได้มีการส่งเสริมและสร้างเครือข่าย ขยายโอกาสเผยแพร่ผลงานดังกล่าวสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์แล้ว ยังเป็นการกระตุ้นการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม แหล่งวิถีชีวิต ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยอีกด้วย

ทางด้านนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งติดตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยด้วยว่า ผู้ประกอบการดิจิทัลคอนเทนต์ไทยทั้ง 15 บริษัท ได้รับโอกาสในการนำเสนอผลงานและบริการที่น่าสนใจให้กับผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงชื่อดัง จนสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

โดยคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจจากผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ คอนเทนต์ทีวีซีรีส์ คอนเทนต์ภาพยนตร์ และคอนเทนต์แอนิเมชั่นซีรีส์ “เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยภายใต้ยุทธศาสตร์ Soft Power แบบไทยมีศักยภาพมาก และเป็นที่สนใจของผู้นำเสนอความบันเทิงระดับโลก ทักษะความสามารถของคนไทยขึ้นชื่อทางด้านการผลิตคอนเทนท์อยู่แล้วเพียงแต่ต้องได้รับการส่งเสริม

ดังนั้นฝ่ายส่งเสริมอย่างกระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีหน้าที่จัดเวทีพบปะ แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ Covid แต่นั่นคือโอกาสเพราะในภาวะเช่นนี้ประชาชนมีความเครียดต้องการเสพความบันเทิงและ Streaming ความบันเทิงอย่าง Netflix, WeTV, iQiyi และ VIU ปัจจุบันเป็นตลาดใหญ่ที่คนทั่วโลกกำลังนิยม ประกอบกับเทรนด์ในปัจจุบันคนอยู่บ้านมากขึ้น จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิง เหล่านี้ก็มีความต้องการผลงานของผู้ประกอบการไทย ” นางมัลลิกา กล่าว

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า นายจุรินทร์สั่งการกระทรวงพาณิชย์ ให้เพิ่มโอกาสให้ผู้ผลิตรุ่นใหม่ๆเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นและขยายโอกาสต่อไป เพราะศักยภาพงานเหล่านี้ปัจจัยสำคัญมาจากความสามารถและผลงานที่โดดเด่นของผู้ประกอบการไทย ที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และพฤติกรรมการรับชมคอนเทนต์ในรูปแบบ Online Platform ของผู้บริโภคที่สอดรับยุค New Normal

และรายงานจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า ผู้ผลิตผู้ประกอบการไทย ขอบคุณและชื่นชมการทำภารกิจส่งเสริมของกระทรวงพาณิชย์และนโยบายนี้ช่วยผลักดันคอนเทนต์และผู้ประกอบการได้มีโอกาสในการขยายธุรกิจให้กว้างมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่สำคัญยังช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยเกิดการพัฒนาให้ได้ตามมาตรฐานสากล และเป็นที่ยอมรับในระดับโลกอีกด้วย

รายงานจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุด้วยว่านโยบาย Soft Power เป็นโอกาสให้ผู้ผลิตคอนเทนต์ทุกขนาดได้เข้าถึงและนำเสนอผลงานที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงในระดับนานาชาติ ทั้งยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้ผู้ผลิตได้มีความรู้ความเข้าใจและผลิตผลงานให้ได้ตามมาตรฐานที่ตรงกับความต้องการของตลาดนานาชาติอีกด้วย

โดยนอกจากการจัดเวทีการเจรจาการค้าแล้ว กระทรวงพาณิชย์ ยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การขยายโอกาสในการดำเนินธุรกิจทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์สอดรับยุค New Normal การจัดนิทรรศการและการสัมมนาแลกเปลี่ยนความรู้ รวมไปถึงการจัดกิจกรรม Networking สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการ โดยสนับสนุนผู้ประกอบการในการสร้างผลงานคุณภาพภายใต้แนวคิด Soft Power ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์”จุรินทร์” ซึ่งมีการผสมผสานเอาเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ที่สำคัญของไทย เช่น ศิลปะ วัฒนธรรม อาหารไทย วิถีชีวิต เข้าไปในผลงานนำเสนอให้กับผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อจากต่างประเทศ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *