นายภัทรพันธุ์ กฤษณา ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับและนายกสมาคมวีลแชร์บาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง ความสำเร็จของนักกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอลของทีมชาติไทยทั้งทีมหญิง ทีมชาย ในการแข่งขันกีฬาคนพิการอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ว่า ในนามของเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับและนายกสมาคมวีลแชร์บาสเกตบอลแห่งประเทศไทยขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้กับทัพนักกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอล
ทำให้พวกเรามีกำลังใจที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ในฐานะตัวแทนนักกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอลของทีมชาติไทย ซึ่งถ้าย้อนหลังไปในอดีตเมื่อ 21 ปีก่อน คนพิการอย่างพวกเราไม่มีตัวตนในสังคม ถูกดูหมิ่น ดูถูกมองว่าพวกเราเป็นภาระของประเทศชาติ แต่ด้วยความมุ่งมั่น พวกเรารวมตัวกันจัดตั้งเป็นเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับออกมารณรงค์ให้สังคมเห็นถึงพิษภัยอันตรายการเมาแล้วขับ
ขณะเดียวกันก็ได้รับโอกาสที่ดีจากบริษัทห้างร้านต่างๆ อาทิเช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย ส่งเสริมให้เหยื่อเมาแล้วขับได้พัฒนาตนเองก้าวสู่การเป็นนักกีฬาคนพิการ และได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนนักกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอลของทีมชาติไทย จนสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประทศไทย สามารถนำเหรียญทองกลับมาให้คนไทยได้ชื่นชมถึง 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน
ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ เปิดเผยว่า เป้าหมายที่หวังไว้สูงสุดคือการได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งพาราลิมปิคที่ประเทศฝรั่งเศสอย่างไรก็ตาม อยากจะขอฝากไปยังผู้ที่มีโอกาส อย่าได้ท้อแท้ ขอให้ดูพวกเราเป็นแบบอย่างหลายคนประสบปัญหา พิการตั้งแต่ยังแค่หัดคลาน เช่นกรณีของนายอดิศักดิ์ ขาวบู่ (น้องแอ๊ด) ถูกคนเมาชน พ่อแม่เสียชีวิตหมด น้องแอ๊ดต้องพิการตั้งแต่อายุ 2 ขวบ เดินไม่ได้ แต่ก็ต่อสู้ชีวิตจนวันนี้เป็นตัวแทนนักกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอลทีมชาติไทย
อยากขอส่งกำลังใจให้คนไทยที่รู้สึกท้อแท้ สิ้นหวังในชีวิต ขอให้คิดถึงคนที่เขายากลำบากกว่าเรา คนที่เกิดมาไม่มีโอกาสดี ๆ เหมือนคนทั่วไป อย่างคนพิการแบบพวกเรา เราไม่สามารถรู้อนาคตข้างหน้าได้ แต่เราเลือกที่จะทำความดีในปัจจุบันได้ สู้เพื่อตัวคุณเองและครอบครัว