ออโต้บอท (AUTOBOT) ร่วมกับ ลาซาด้า (Lazada) จัดแคมเปญสุดพิเศษ AUTOBOT x Lazada ผ่านแอปพลิเคชันลาซาด้า 9-11 พฤศจิกายน 2562 พร้อมอีเว้นท์เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ณ ลานกิจกรรมกลาง ห้างสรรพสินค้าเมกา บางนา ออโต้บอทคาดการณ์ปี 2563 เครื่องใช้ไฟฟ้าจะเป็นสินค้า IoT ทั้งหมด สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ควบคุมการใช้งานแจ้งเตือนผ่านสมาร์ทโฟน คุ้มค่าและปลอดภัย ตั้งเป้าวางแผนการตลาดเชิงรุกต่อเนื่อง เชื่อมั่นปีหน้าก้าวสู่แบรนด์ผู้นำตลาดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะแน่นอน
นายปฏิเวธ อักษราภรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ (Co Founder & Managing Director) บริษัท โรบอท เมคเกอร์ จำกัด เปิดเผยว่า “ตลอดระยะเวลาทำการตลาดมากว่า 6 ปี เราได้นำสินค้าเข้าร่วมจำหน่าย กับลาซาด้า และให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์มาเป็นอับดับ 1 และคาดหวังที่จะเติบโตในช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันซื้อของผ่านอีคอมเมิร์ซกันเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันเรามียอดขายผ่านออนไลน์อยู่ 80 % ออฟไลน์ 20 %
โดยทางลาซาด้ามีการจัดแคมเปญเชิงรุกอย่างต่อเนื่องและมีวิธีการทำตลาดที่น่าสนใจ มอบส่วนลดมากมาย ดึงดูดผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีและมีพันธมิตร แบรนด์ดังมากมายตอบรับสนับสนุนโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ โดยตลอด อาทิ สินค้าแบรนด์ดังที่ร่วมอยู่ใน LazMall ทางลาซาด้ามีการคัดกรองผู้ขายอย่างเข้มงวด เทคโนโลยีอันทันสมัยและการบริการที่มีมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการการันตีสินค้าของแท้ (Authenticity), สามารถส่งสินค้าคืนได้ภายใน 15 วัน (15 Days Easy Return) และการจัดส่งที่รวดเร็ว ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมีประสบการณ์ที่ดีกับการช้อปปิ้งผ่านลาซาด้า จากการสำรวจของออโต้บอทพบว่าสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะภายในบ้าน (Smart home) ได้รับการยอมรับของผู้ใช้งานและยอดขายค่อนข้างดีเกินความคาดหมาย ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังจนถึงปลายปีนี้ ทางออโต้บอทจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้า โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีอัจฉริยะ (AI) ตลอดจนการสร้างความมั่นคงในเครือข่ายพันธมิตรต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายของการเติบโต 3 เท่าจากปีที่แล้วให้สำเร็จ
ทั้งนี้ความสนใจในเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มขึ้นของคนไทยในปัจจุบัน ทำให้การแข่งขันในด้านของเทคโนโลยีดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น เพราะ AI กำลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ออโต้บอทจึงให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจระบบ AI และนำเข้ามาช่วยในการดำเนินชีวิตให้มากขึ้น อาทิ การพัฒนาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีระบบ AI และการพัฒนาระบบนำทางที่แม่นยำจาก AI เพื่อช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำความสะอาดบ้านถึงวันละ 30 นาทีถึง 1 ชม. เป็นอย่างน้อย ซึ่งหากทำได้จะช่วยให้ผู้บริโภคมีเวลาเพิ่มขึ้น 130-365 ชม.ต่อปีในการไปทำกิจกรรมอื่นๆ
ขณะเดียวกัน บริษัทยังจะเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ของ Autobot โดยการเปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่น Lazer mark 4 ที่ใช้ระบบ Laser นำทาง ความแม่นยำสูงที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้มีความสามารถอยู่ในระดับท็อปของโลก ไม่ว่าจะเป็นการสามารถสร้างแผนที่เพื่อความสะอาดทุกห้องในบ้าน สามารถดูดและถูในรอบเดียวกัน สามารถสั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน สามารถตั้งเวลาทำงานได้ไม่จำกัด และมีราคาที่ถูกลงสามารถจับต้องได้ ซึ่งการจับมือกันกับลาซาด้าในครั้งนี้ถือเป็นการก้าวสู่ความเป็นที่หนึ่งร่วมกัน โดยทั้งออโต้บอทและลาซาด้ามีจุดมุ่งหมายที่เหมือนกัน คือการพัฒนาสินค้าและบริการที่จะสร้างประสบการณ์ และคุณค่าที่มากับพร้อมความคุ้มค่า
“ออโต้บอทต้องการคู่ค้าหรือแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างความมั่นใจและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของเรา โดยพบว่าการให้บริการสั่งซื้อสินค้าออโต้บอทผ่านช่องทางลาซาด้าเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทุกๆ ปี และในปีนี้นับเป็นปีที่ 6 ของออโต้บอทที่ร่วมผนึกพันธมิตรการค้ากับลาซาด้า จึงได้หาโอกาสคืนกำไรให้กับลูกค้าผ่านแคมเปญ 11.11 โดยกิจกรรมที่จะมีขึ้นภายในงาน Autobot x Lazada ครั้งนี้จะเปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นพลังไซโคลนรายแรกของประเทศไทยใช้ร่วมกับระบบ Laser Mapping แรงดูดสูงสุด 8000 PA มากกว่าหุ่นยนต์ทำความสะอาดทั่วไปถึง 4 เท่า ภายใต้ชื่อรุ่น Lazer mark 4 [Cyclone Edition] ส่วนเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่มีจำหน่ายในตอนนี้ แรงดูดใกล้เคียงแบรนด์ดังจากอังกฤษในราคาที่ถูกกว่าถึง 3เท่า โดยเร็วๆ นี้จะมีออพชั่นเสริมเป็นหัวดูดฝุ่นพร้อมถูพื้นไปพร้อมกันด้วย” นายปฏิเวธ กล่าว
ด้าน นางสาวภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้า เป็นผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีระบบโครงสร้างและเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นจุดแข็งด้านโลจิสติกส์ การขนส่งที่รวดเร็ว มีระบบการชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลที่หลากหลาย รวมทั้งรูปแบบเก็บเงินปลายทางซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ลาซาด้าบุกเบิกเป็นรายแรกๆ ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ ยังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับอาลีบาบา
“การลงทุนด้านความพร้อมของระบบทั้งหมดนี้ เพราะมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยภายในปี 2573 ลาซาด้าตั้งเป้าในการให้บริการนักช้อปออนไลน์ทั่วภูมิภาคกว่า 300 ล้านคน จะก่อให้เกิดการสร้างงานกว่าล้านตำแหน่ง ต่อยอดการเติบโตของเอสเอ็มอีในประเทศไทย ถือเป็นการเติมเต็มระบบอีโคซิสเต็มส์ของอีคอมเมิร์ซได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ลาซาด้ายังเดินหน้าผนึกกำลังกับพันธมิตรในหลากหลายธุรกิจอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ระดับโลกและในไทย รวมทั้งยังสนับสนุนผู้ขายรายย่อยให้สามารถเติบโตและประสบความสำเร็จก้าวสู่การเป็น Super eBusinesses โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Super e-solution เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายของแบรนด์และผู้ขายบนลาซาด้าได้อย่างยั่งยืน ออโต้บอทถือเป็นอีกหนึ่งพันธมิตรที่เราร่วมกันมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคมายาวนาน และความร่วมมือในครั้งนี้ก็ถือเป็นการมอบความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภคอีกครั้ง ภายใต้แคมเปญ 11.11 ที่ถือว่าเป็นแคมเปญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีของลาซาด้า”
นายปฏิเวธ กล่าวต่อไปว่า “สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านปลายปีนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าประเภทที่มีนวัตกรรม เนื่องจากสินค้ามีคุณภาพที่ดีขึ้น และมีราคาถูกลง จึงทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายรวมเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบ 200% ซึ่งจากความสำเร็จนี้ บริษัทมั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมียอดขายเติบโตกว่า 2-3 เท่าแน่นอน โดย Autobot เล็งเห็นความสำคัญที่จะช่วยผู้บริโภคให้มีชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น จึงมีการริเริ่ม และพัฒนาโปรเจคหุ่นยนต์ขัดห้องน้ำอัจฉริยะนี้ พัฒนามาตลอด 2 ปี
โดยทางเราได้มีการจำหน่ายไปแล้วกว่า 100 เครื่องซึ่งผลตอบรับดีมาก และมีออเดอร์ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว นี่คือสัญญาณที่ดีและเป็นกำลังใจที่ดี ให้บริษัทในประเทศไทยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป และปีนี้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเติบโตอย่างมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเครื่องฟอกอากาศ โดยAutobot ให้ความสำคัญ กับสัญญานฝุ่นละออง PM2.5 ที่ยังคงมีและวนเวียนพัดผ่านในประเทศไทย ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเกี่ยวกับการฟอกอากาศเพื่อกำจัดฝุ่นละออง มีการขยายตัวและเติบโตทางด้านยอดขาย มากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆโดยปริยาย โดยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นและเครื่องดูดฝุ่นไร้สายของ Autobot ก็ใช้ไส้กรองคุณภาพดีอย่าง HEPA แบบเดียวกับเครื่องกรองอากาศเช่นกัน ทั้งนี้แบรนด์ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุกและรับ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์มาโดยตลอด ส่วนกลยุทธ์สำคัญที่สุดคือ ผลิตภัณฑ์ต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าในราคาที่คุ้มค่าจับต้องได้เสมอ ในส่วนของช่องทางจัดจำหน่ายออฟไลน์มีที่ Siam Paragon, Tesco Lotus, B2S, Betrend, Gizman, เซ็นทรัลพระราม 9 , เซ็นทรัลหาดใหญ่ ฯลฯ หรือสอบถามสถานที่ใกล้เคียงได้ที่ไลน์ไอดี @autobot