หัวเว่ย มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคลาวด์ระดับภูมิภาค
หลังจากกระทรวงดีอี ชี้แจงนโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก “Cloud First Policy”
กรุงเทพฯ, 15 สิงหาคม 2567 – หัวเว่ย คลาวด์ ประกาศวันนี้ว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะร่วมมือและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคลาวด์ระดับภูมิภาค ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่เติบโตและถูกนำไปใช้บนระบบคลาวด์ (Cloud) ในขณะที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) ชี้แจงรายละเอียดนโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Policy) เพื่อเพิ่มการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลในบริการสาธารณะและขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัลของประเทศไทย
![](https://mfocusnews.com/wp-content/uploads/2024/08/1000031011.jpg)
ความพยายามในการบรรลุแผนงานดิจิทัลระดับชาติผ่านการบูรณาการทำงานร่วมกัน เป็นเรื่องที่มีการพูดถึงอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้ร่วมงานนับร้อยคนที่งาน Huawei Cloud Summit Thailand ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงดีอีและหัวเว่ย ในกรุงเทพมหานคร
ในการกล่าวเปิดงาน Huawei Cloud Summit Thailand วันนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ชี้แจงรายละเอียดและขั้นตอนการทำงานตามนโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Policy) และกล่าวถึงความร่วมมือระหว่างกระทรวงดีอีและหัวเว่ย คลาวด์ ที่มุ่งมั่นนำเสนอประโยชน์ที่แท้จริงของนโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Policy) ให้กับประชาชนไทย
“นโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Policy)” ซึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ไม่ได้เป็นเพียงแค่โครงการด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์ที่ครอบคลุมหลายด้านเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลของประเทศไทย ยกระดับประสิทธิภาพบริการสาธารณะ และสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมในทุกภาคส่วน” รัฐมนตรี กล่าว
![](https://mfocusnews.com/wp-content/uploads/2024/08/1000031010.jpg)
“นโยบายนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของเราเท่านั้น แต่ยังสร้างพื้นฐานให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมเทคโนโลยีและการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกด้วย”
“เรามั่นใจว่า นโยบายนี้จะเร่งการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลของเรา สร้างโอกาสใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจ และทำให้ประเทศไทยยืนอยู่แถวหน้าของการปฏิวัติดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราขอเชิญชวนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วนเข้าร่วมกับเราในการเดินทางที่น่าตื่นเต้นนี้ และมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตดิจิทัลของประเทศไทย” นายประเสริฐ กล่าว
“ความร่วมมือของเรากับหัวเว่ย คลาวด์ ย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ปลอดภัย และเชื่อถือได้ การลงทุนของหัวเว่ย คลาวด์ ในโครงสร้างพื้นฐานท้องถิ่นและเทคโนโลยีขั้นสูง จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนวิสัยทัศน์การใช้คลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Vision) ของเรา ทั้งนี้ เราขอรับรองว่าประโยชน์ของเทคโนโลยีคลาวด์จะถูกนำไปใช้ในทุกภาคส่วนของประเทศไทย ทั้งภาคประชาชน ธุรกิจ และสถาบัน” นายประเสริฐ กล่าว
“วันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินทางของประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” เขากล่าวเสริม
![](https://mfocusnews.com/wp-content/uploads/2024/08/1000031009.jpg)
แจ็กเกอลีน สือ (Jacqueline Shi) ประธานฝ่ายการตลาดและบริการจัดจำหน่ายระดับโลกของหัวเว่ย คลาวด์ กล่าวว่า “หัวเว่ยได้เพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ในประเทศไทย และชุดเทคโนโลยีและเครื่องมือที่มีอยู่ในระบบคลาวด์ของประเทศไทย ได้มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”
“เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับความร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศไทย โดยการนำเทคโนโลยีและเครื่องมือขั้นสูงเพิ่มเติมเข้ามา และขยายบริการดิจิทัลที่นี่ เราจะไม่เพียงแต่นำประโยชน์ที่แท้จริงมาสู่ชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังใช้โครงสร้างพื้นฐานของระบบคลาวด์เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลในวงกว้างอีกด้วย” เธอกล่าว
สือ กล่าวว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้า หัวเว่ย คลาวด์ จะเพิ่มขีดความสามารถการทำงานในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในท้องถิ่น เพื่อรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลและประสิทธิภาพในการประมวลผล การลงทุนที่สำคัญนี้จะเสริมสร้างสถานะของประเทศไทยในฐานะผู้นำดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หัวเว่ยได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ตั้งแต่ปี 2561 รวมถึงโซนให้บริการท้องถิ่นสามแห่ง ทำให้บริษัทฯ เป็นผู้นำการให้บริการคลาวด์ในประเทศ
![](https://mfocusnews.com/wp-content/uploads/2024/08/1000031005.jpg)
เดวิด หลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย กล่าวว่า “หัวเว่ย คลาวด์ มีความพิเศษและแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ ด้วยโซนการให้บริการ (Availability Zone) ในประเทศไทย เราทำให้ลูกค้าทุกคนสามารถจัดเก็บข้อมูลในประเทศไทย ในขณะที่เราสามารถลดระยะเวลาแฝงของเครือข่าย คลาวด์ (Cloud networking latency) ทั่วประเทศเหลือเพียง 12ms”
หัวเว่ย คลาวด์ ได้นำเทคโนโลยีล่าสุดบนระบบคลาวด์มาสู่ประเทศไทย รวมถึง GaussDB โซลูชันฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์แบบกระจายระดับองค์กรของหัวเว่ย และ MetaStudio’s Digital Man โมเดลบุคคลดิจิทัล ที่ใช้นวัตกรรมบุคคลเสมือนจริงที่มีการซิงโครไนซ์สูงและมีชีวิตชีวา
กระทรวงดีอี ได้ชู 7 นโยบายดิจิทัลหลัก โดยเน้นถึงศักยภาพในการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีคลาวด์ และหนึ่งในนโยบายทั้งเจ็ด คือ การใช้คลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Policy) ที่มุ่งเปลี่ยนผ่านดิจิทัลอย่างรวดเร็ว โดยการใช้ Cloud Computing เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของรัฐบาล สนับสนุนองค์กรขนาดใหญ่ และให้บริการลูกค้าในภูมิภาค
![](https://mfocusnews.com/wp-content/uploads/2024/08/1000031008.jpg)
หัวเว่ย คลาวด์ ได้ร่วมมือกับกระทรวงดีอี เพื่อเปิดตัว e-Government Cloud เพื่อเพิ่มการทำงานร่วมกันทางดิจิทัลและคุณภาพการบริการสาธารณะ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการสร้างสมาร์ทซิตี้ (Smart City) แห่งแรกในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ปรับปรุงบริการสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐาน อีกทั้งยังได้พัฒนาเหมือง SCG สีเขียวแห่งแรกและโรงงานอัจฉริยะ Matsumoto เพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืน
ในฐานะผู้ให้บริการคลาวด์ที่เชื่อถือได้ หัวเว่ย คลาวด์ ได้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้งและนำโซลูชันไฮบริดคลาวด์ที่ตอบสนองความต้องการพัฒนาท้องถิ่นของประเทศไทยมากที่สุด หัวเว่ย คลาวด์ ให้บริการคลาวด์ในภาคอุตสาหกรรมมากกว่า 15 แห่งในประเทศไทย และเปิดตัวบริการคลาวด์มากกว่า 100 รายการ ทั้งนี้รายงานของ Sullivan ในเดือนธันวาคม 2566 พบว่า หัวเว่ย ประเทศไทย ครองอันดับ 1 ในภาคการตลาด Hybrid Cloud และในการเปลี่ยนผ่านดิจิทัลของรัฐบาล องค์กร และอุตสาหกรรม บริษัทชั้นนำ 10 อันดับแรกของประเทศไทย และมากกว่า 70% ของกระทรวงต่างๆ ของรัฐบาล รวมทั้งสถาบันการเงิน 25 แห่ง ได้เลือกหัวเว่ยเป็นพันธมิตรในการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล
![](https://mfocusnews.com/wp-content/uploads/2024/08/1000031006.jpg)
ความมุ่งมั่นของหัวเว่ย คลาวด์ นั้น ครอบคลุมไปถึงการสร้างโครงข่ายดิจิทัลที่แข็งแกร่งและการพัฒนาทักษะท้องถิ่นผ่านโครงการฝึกอบรมที่หลากหลาย เพื่อช่วยประเทศไทยเติมเต็มช่องว่างของความต้องการบุคคลากรที่มีทักษะดิจิทัลถึง 500,000 คน
หนึ่งในโครงการทั้งหมด คือ อาเซียน อคาเดมี (ประเทศไทย) หรือ ASEAN Academy (Thailand) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2563 ได้ฝึกอบรมบุคลากรมากกว่า 96,200 คน รวมถึงนักพัฒนา ICT นักพัฒนา AI บนคลาวด์ วิศวกรสีเขียว และนักเรียนในชนบท
![](https://mfocusnews.com/wp-content/uploads/2024/08/1000031001.jpg)
นอกจากนี้ หัวเว่ย ยังได้เปิดตัวการแข่งขัน Spark startup ร่วมกับรัฐบาลและพันธมิตร ดึงดูดสตาร์ทอัพมากกว่า 120 ราย และให้การสนับสนุนด้านเทคนิค ทุน ขยายตลาด และการสนับสนุนการดำเนินงาน ในการเป็นที่ยอมรับของการทำงานและสนับสนุนองค์กรต่างๆ หัวเว่ย ได้รับรางวัล Thailand’s Prime Minister’s Award ด้าน“สุดยอดองค์กรดีเด่นด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา