มหาวิทยาลัยรังสิต จัดพิธีประสาทปริญญา ประจำปี 2567 โดยได้รับเกียรติจาก ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีกิตติคุณผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต เป็นประธานในพิธีมอบปริญญาบัตร ในปีนี้สภามหาวิทยาลัยรังสิตมีมติประสาทแด่ พระราชวชิรวิทยานุสิฐ (วราห์ ปุญญวโร) ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง ณ อาคารนันทนาการ มหาวิทยาลัยรังสิต
ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีกิตติคุณผู้ก่อตั้ง มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีต่อทุกท่านที่ได้สำเร็จการศึกษา ได้รับปริญญา เป็นใบเบิกทางไปสู่การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพลเมืองที่มีคุณค่าของประเทศชาติและสังคม เพื่อความยั่งยืนของชาติบ้านเมืองต่อไป มหาวิทยาลัยรังสิตมีความภาคภูมิใจ ที่ได้บรรลุภารกิจ สร้างคนเก่ง คนดี มีคุณธรรม ออกไปก่อประโยชน์ต่อสังคม มีความพร้อมที่จะเผชิญหน้าและรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ในโลกกว้างแห่งความเปลี่ยนแปลง จากวันแรกที่ท่านเข้ามาสู่สถานศึกษาแห่งนี้ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เตรียมความพร้อมทุกด้านทั้งด้านทักษะ วิชาการ และคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจ การปลูกฝังเรื่องความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ปลูกฝังจิตสำนึกแห่งความเสียสละ ความอดทน ความมุ่งมั่น พร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม ภายใต้ วิสัยทัศน์ ที่ว่า มหาวิทยาลัยรังสิต คือ “ขุมพลังแห่งปัญญาของชาติ เพื่อปฏิรูปประเทศไทยสู่สังคมธรรมาธิปไตย” และวันนี้ ท่านคือ “บัณฑิต” ที่เติบโต พร้อมกับความรู้ทั้งวิชาการ วิชางาน และวุฒิภาวะ เพื่อออกไปทำหน้าที่ ด้วยความรับผิดชอบ ในฐานะ “พลเมืองที่ดีของสังคมไทย” ผมอยากจะเรียนว่า โลกและสังคมของเราทุกวันนี้ได้เปลี่ยนไปมาก โลกวันนี้ ไม่เพียงขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังเป็นโลกที่คาดการณ์อะไรได้ยากยิ่ง ส่งผลกระทบต่อสังคมมนุษย์ที่มีความเหลื่อมล้ำ ต่ำสูง และนับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นความขัดแย้งที่ยากจะสมัครสมานสามัคคีกันได้ แต่เราไม่สามารถแยกตัวออกจากความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ เราจะต้องอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ และอยู่อย่างเข้าใจ และรู้เท่าทัน
“ผมอยากให้ท่านได้ทบทวนปณิธานและวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ได้อธิบาย สื่อสาร และปลูกฝังแก่นักศึกษามาตลอด นั่นคือ หลักธรรมาธิปไตย ซึ่งหมายถึง การวินิจฉัยความถูก ความผิด ความควร ไม่ควร หรือความจริง ความเท็จ ด้วยการใช้ ความเป็นธรรม และ ประโยชน์สุขของประชาชนส่วนใหญ่ เป็นบรรทัดฐาน มิใช่ อัตตาธิปไตย ที่ถือความคิดและผลประโยชน์ส่วนตนเป็นตัวชี้ขาด หรือ โลกาธิปไตย ที่ถือเอากระแสความนิยมชมชอบของคนทั่วไป เป็นเกณฑ์วัดความถูกต้องแน่นอน ในสังคมไทย คุณธรรม และ จริยธรรม เป็นแนวคิดพื้นฐานที่มีคุณค่าที่ท่านควรคำนึงถึงเป็นอย่างยิ่ง ประเด็นทางจริยธรรมในสังคมไทยรวมถึงการทุจริต การขาดคุณธรรม และความขัดแย้งในสังคม ปัจจัยอย่างการบริโภคนิยมและการมองผลประโยชน์ของตนเองทำให้ปัญหาเหล่านี้รุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมทางจริยธรรมลดลงและความไม่สงบในสังคมเพิ่มมากขึ้น สิ่งสำคัญ คือ ต้องตระหนักถึงความท้าทายเหล่านี้ เพราะมีผลกระทบต่อความสามัคคี ความก้าวหน้าของสังคมและประเทศชาติ โลกวันนี้ต้องการคนหนุ่มสาวที่มีทั้งความรู้ ความรับผิดชอบ ความสำนึก และทัศนคติเชิงบวก ซึ่งเป็นประตูสู่โลกกว้างของโอกาสและความเป็นไปได้ต่อการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ทัศนคติและกรอบความคิด หรือ Mindset ที่ถูกต้องจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ท่านก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง กรอบความคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) จะช่วยให้ท่านมองเห็นโอกาสในทุกความ ท้าทาย และพร้อมเรียนรู้จากข้อผิดพลาด การเลือกคิด พูด และกระทำในสิ่งดีงามจะช่วยสร้างความมั่นใจและเสริมพลังบวกให้ท่านบรรลุเป้าหมายของชีวิต ในขณะเดียวกัน การมีกัลยาณมิตรที่มีทัศนคติเชิงบวก จะช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตของท่านเอง การอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ช่วยจุดประกายให้เกิดแรงบันดาลใจและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ จะช่วยให้ท่านได้รับพลังงานที่ดี และมองโลกในแง่มุมที่สร้างสรรค์มากขึ้น อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออนาคตของท่านเอง แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก จงอย่ามองปัญหาเป็นเพียงอุปสรรค แต่มองว่าเป็นบทเรียนและโอกาสให้เราได้เติบโต เมื่อท่านมีทัศนคติ เชิงบวก มีกรอบความคิดที่ดี และคนรอบข้างที่สนับสนุนในทางที่ถูกต้อง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ท่านเป็นดั่งแสงสว่างที่ชี้นำทางสังคมไปสู่ความถูกต้องและสังคมที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างแท้จริง ผมขอฝากความเชื่อมั่นและความปรารถนาดี ขอให้ท่านใช้ความรู้ ความสามารถ และทัศนคติที่ดี เพื่อสร้างอนาคตที่งดงามและยั่งยืนให้แก่ตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ”
ด้านคำประกาศเกียรติคุณ พระราชวชิรวิทยานุสิฐ (วราห์ ปุญญวโร) ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง มหาวิทยาลัยรังสิต พระสงฆ์กับบทบาทความเป็นผู้นำเชิงจิตวิญญาณเพื่อการเปลี่ยนแปลง มีใจความว่า พระราชวชิรวิทยานุสิฐ หรือหลวงพ่อวราห์ ปุญญวโร พระสงฆ์ผู้ใช้ความเมตตาและคุณธรรมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและชุมชนโดยรอบด้วยความวิริยะอุตสาหะและความตั้งใจอันแน่วแน่ ท่านเป็นทั้งครู เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่ได้รับความเคารพยกย่อง อย่างสูง และได้สร้างผลงานอันทรงคุณค่าที่สะท้อนถึงบทบาทของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ ได้แก่ ด้านการสร้างวิสัยทัศน์และความสงบในจิตใจของสังคม การส่งเสริมการศึกษาและงานสาธารณประโยชน์ การเป็นต้นแบบผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่สร้างคุณประโยชน์แก่สังคม และการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ในด้านการสร้างวิสัยทัศน์และความสงบในจิตใจของสังคม พระราชวชิรวิทยานุสิฐเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ท่านได้ใช้วัดโพธิ์ทองเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่ธรรมะและพัฒนาจิตใจของพุทธศาสนิกชน โดยได้บูรณะและปรับปรุงวัดให้เป็นสถานที่สงบ เหมาะแก่การฝึกสมาธิและการศึกษาภายใต้บรรยากาศที่เอื้อต่อการเจริญสติและพัฒนาจิตวิญญาณของผู้คนที่มาเยือน วัดโพธิ์ทองในปัจจุบันจึงไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถาน แต่เป็นแหล่งรวมจิตใจของประชาชน ผู้แสวงหาความสงบและแนวทางแห่งความดีงาม นอกจากนี้ ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลง พระราชวชิรวิทยานุสิฐ ได้ชี้แนะหนทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกผ่านการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง โดยท่านได้เผยแผ่คำสอนผ่านกิจกรรมศาสนาต่าง ๆ อาทิ การบรรยายธรรมในวันสำคัญ การอบรมพระภิกษุสามเณร และการให้คำแนะนำแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป กิจกรรมเหล่านี้ทำให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงธรรมะและได้รับการส่งเสริมให้มีจิตใจที่แข็งแกร่งพร้อมเผชิญปัญหาด้วยความสงบ
ด้านการส่งเสริมการศึกษาและงานสาธารณประโยชน์ พระราชวชิรวิทยา นุสิฐได้ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาซึ่งเป็นรากฐานในการพัฒนาสังคม ท่านได้จัดสรรทุนการศึกษาและมอบโอกาสให้เยาวชนได้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ การสนับสนุนด้านการศึกษาของท่านยังรวมไปถึงการจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอนและทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่ยากไร้และขาดแคลน ซึ่งแสดงถึงความเสียสละและความเอื้อเฟื้อในการช่วยเหลือผู้อื่น และสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชนในการทำความดีเพื่อสังคม
ในด้านงานสาธารณสุข พระราชวชิรวิทยานุสิฐ ได้สนับสนุนการจัดหาเครื่องมือแพทย์สำหรับโรงพยาบาลในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้บริการผู้ป่วยที่ยากไร้และขาดแคลน โดยท่านได้บริจาคเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนเช่นนี้เป็นการแสดงออกถึงความเมตตาและกรุณา ซึ่งเป็นแก่นแท้ของผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ท่านได้แสดงออกอย่างชัดเจน ท่านได้สร้างความหวังและกำลังใจให้กับผู้ป่วยและครอบครัว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและความรู้สึกอบอุ่นในใจของผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือ
ในด้านการเป็นต้นแบบผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่สร้างคุณประโยชน์แก่สังคม พระราชวชิรวิทยานุสิฐได้ใช้ศักยภาพในการเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณเพื่อสร้างสรรค์สังคมให้อยู่ในทิศทางที่ดีงาม โดยมีเป้าหมายคือการสร้างชุมชนที่มีคุณธรรมและความสงบสุข ท่านเป็นต้นแบบในการอุทิศตนให้กับการพัฒนาชุมชนและการสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนา ผ่านกิจกรรมการเผยแผ่ธรรมะที่หลากหลาย และท่านยังคงรักษาความสม่ำเสมอและความตั้งใจในการส่งเสริมพุทธศาสนา จนทำให้วัดโพธิ์ทองกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนที่แสวงหาความสงบ
ด้านการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน นอกจากการบริหารจัดการวัดและการเผยแผ่ธรรมะแล้ว ท่านยังให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ดีแก่ชุมชนรอบข้าง พระราชวชิรวิทยานุสิฐได้ทำให้วัดโพธิ์ทองเป็นสถานที่ที่เอื้อต่อการพัฒนาทางจิตใจและความเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา ท่านสนับสนุนชุมชนทั้งในช่วงเวลาปกติและในยามวิกฤต เช่น การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมและภัยพิบัติต่าง ๆ ท่านเป็นที่พึ่งพิงให้กับผู้ที่มีความทุกข์ยาก พร้อมให้คำแนะนำที่เสริมสร้างความเชื่อมั่นและความสงบภายในจิตใจ ทำให้ผู้ที่เผชิญปัญหาสามารถก้าวผ่านความทุกข์ไปได้อย่างมีพลังใจ
จากที่กล่าวมาทั้งสิ้น พระราชวชิรวิทยานุสิฐ (หลวงพ่อวราห์ ปุญญวโร) ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในสังคมไทย ท่านเป็นทั้งผู้นำทางจิตวิญญาณและแบบอย่างที่ดีในการทำความดี ท่านไม่เพียงแต่เป็นผู้นำที่เน้นการพัฒนาตนเอง แต่ยังทุ่มเทเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมให้ดีขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ท่านเป็นที่ยอมรับและนับถืออย่างสูงในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง