เครือข่ายต้านภัยกาสิโนและพนันออนไลน์ เตรียมยื่นข้อเรียกร้องถึงรัฐบาล ครม. และพรรคเพื่อไทยสัปดาห์หน้า ย้ำกาสิโนและพนันออนไลน์ ต้องถอนไม่ใช่แค่ถอย”
26 มิ.ย. 68 ที่สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย กลุ่มภาคีเครือข่ายต้านภัยกาสิโนและพนันออนไลน์ ประกอบด้วยตัวแทนจากหลายฝ่าย ทั้งราชวิทยาลัยแพทย์ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สภาคริสตจักรในประเทศไทย สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ สมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน สภาองค์กรชุมชนเขตคลองเตย เครือข่ายนักสาธารณะสุขจัดการปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ
เครือข่ายสื่อสร้างสรรค์เพื่อการขับเคลื่อนสังคม เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อสังคม เครือข่ายปกป้องสิทธิเด็ก เครือข่ายชุมชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายสถานประกอบการลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายเด็กมีภูมิ เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน และเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน เครือข่ายเด็ก สตรีและครอบครัว ร่วมประชุมกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนหากรัฐบาลเดินหน้าผลักดันร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรเข้าสภา

นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ในฐานะผู้ประสานงานจัดการประชุมเปิดเผยว่า “แม้ว่ารัฐบาลจะส่งสัญญาณเลื่อนการเสนอญัตติการประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรออกไป ไม่เข้าสู่สภาในวันที่ 9 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ก็ยังวางใจไม่ได้ เพราะรัฐบาลอ้างว่าขอเวลาไปทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้นก่อน ในอนาคตหากสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไปอาจมีการดันกฎหมายนี้ซึ่งยังค้างอยู่ในวาระกลับมาอีก
นอกจากนี้ร่างแก้ไขพ.ร.บ.การพนันให้พนันออนไลน์ถูกกฎหมายก็ยังคงถูกเก็บงำอยู่ ประชาชนไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีการดำเนินการไปถึงไหนหรือมีอะไรซ่อนอยู่มีการดีลอะไรกันอยู่ที่ประชาชนไม่รู้ ที่ประชุมจึงมีความเห็นร่วมกันว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ. Entertainment Complex และ พ.ร.บ. พนันออนไลน์ ออกจากกระบวนการทางกฎหมายอย่างถาวร โดยเน้นย้ำว่าต้อง “ถอน” ไม่ใช่แค่ “ถอย” หรือเลื่อนออกไปเท่านั้น
และในสัปดาห์หน้าเครือข่ายจะไปยื่นข้อเรียกร้องกับรัฐบาล คณะรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยให้ถอนร่างกฎหมาย ขอให้ยุติไม่เดินหน้าต่อทั้งพรบ.สถานบันเทิงครบวงจร และพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย และทางที่ดีที่สุด ซึ่งจะสง่างามกว่าคือการทำประชามติหรือเสนอเป็นนโยบายพรรคในการหาเสียงครั้งหน้า จะได้รู้กันไปเลยว่าคนในประเทศนี้เลือกอะไร เอาหรือไม่เอา” นายธนากร กล่าว

ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิช ผู้แทนเครือข่ายปกป้องสิทธิเด็ก ตั้งคำถามว่า “รัฐบาลคิดได้อย่างไร จะใช้อบายมุขเป็นแหล่งสร้างรายได้เพื่อพัฒนาประเทศพัฒนาเด็กพัฒนาสังคม การดำเนินนโยบายเช่นนี้จะส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนค่านิยมของเด็กรุ่นใหม่ที่จะเติบโตมาในสังคมที่เต็มไปด้วยธุรกิจสีเทา”
“ในฐานะผู้ที่ทำงานด้านเด็กกับอินเทอร์เน็ต ได้เห็นผลกระทบจากพนันออนไลน์อย่างชัดเจน ผลสำรวจพบอายุของผู้เล่นพนันมีแนวโน้มจะน้อยลงเรื่อย ๆ และมีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็นผู้เสพติดพนัน ในส่วนของครอบครัว บ้านไหนที่มีพ่อหรือแม่ติดพนัน มันเหมือนตกนรก รัฐบาลจึงควรถอนเรื่องนี้ออกไป เพราะดูแล้วไม่มีข้อดีเลย” ดร.ศรีดากล่าว

ด้าน นายธนากรณ์ พวยไพบูลย์ ตัวแทนเครือข่ายสถานประกอบการลดปัจจัยเสี่ยง นำเสนอภาพจริงของผลกระทบจากการพนันในสภาพแวดล้อมการทำงานย้ำชัดการพนันทำลายชีวิตคนงาน “ในโรงงานอุตสาหกรรม การพนันเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายมาก เครื่องบิน ๆ ผ่านยังพนันกันเลย
ปัจจุบันคนงานตกเป็นเหยื่อพนันออนไลน์กันเยอะมาก เกิดปัญหาเงินไม่พอใช้และปัญหาครอบครัวตามมา นี่คือปัญหาที่เราเจอจริงๆ ที่อยากเรียกร้องให้รัฐบาลดูแล ไม่ใช่บอกว่าเศรษฐกิจจะดีหากประเทศเรามีกาสิโน ซึ่งตนมองว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยกับโฆษณาชวนเชื่อนี้ของรัฐบาล”
“การรวมตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความกังวลร่วมกันของหลายฝ่ายต่อนโยบายที่อาจส่งผลกระทบต่อสังคมไทยในระยะยาว โดยเฉพาะต่อเด็ก เยาวชน ครอบครัว และชุมชน เราไม่ใช่พวกสุดโต่งแต่เราไม่เคยเชื่อมั่นได้เลยว่ารัฐบาลจะควบคุมเสือสองตัวนี้ได้ทั้งกาสิโนและพนันออนไลน์ ตราบได้ที่ปัญหาคอรับชั่น ส่วยใต้โต๊ะ การฟอกเงิน หรือการช่วยเหลือคนที่ติดพนันยังไม่ปรากฏให้เห็นไม่ถูกแก้ ก็ไม่ต้องฝันถึงเรื่องพวกนี้” นายธนากรณ์กล่าว