ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ชื่นชมงดเหล้าเข้าพรรษาตำบลเดียว ประหยัดเงินกว่า 1.4 ล้านบาท หนุนพลังชุมชนร่วมลงแขกเกี่ยวข้าว พร้อมเชิดชูคนต้นแบบงดเหล้า ลดปัจจัยเสี่ยง หวังใช้วัฒนธรรมชุมชนเป็นกลไกเชื่อมโยงการรณรงค์ และเสริมสร้างพลังชุมชนสุขภาวะอย่างเป็นรูปธรรม
ร้อยเอ็ด – นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงาน และพิธีมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติบุคคลต้นแบบด้านการลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประจำปี 2568 ที่วัดโพธิการาม ตำบลโพนสูง อำเภอปทุมรัตน์ จังหวัดร้อยเอ็ด ให้แก่ “คนหัวใจหิน” ผู้ที่งดเหล้าครบพรรษา และ “คนหัวใจเพชร” ผู้ที่เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดชีวิต เพื่อยกย่องความมุ่งมั่นตั้งใจและสร้างแรงบันดาลใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพ ควบคู่ไปกับการธำรงรักษาวิถีวัฒนธรรมชุมชนอย่างยั่งยืน
ภายในงานยังมีกิจกรรม“ลงแขกเกี่ยวข้าว สืบสานประเพณีวิถีชาวนา” ณ แปลงนาสามัคคี บ้านท่าม่วง ตำบลโพนสูง อำเภอปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด ท่ามกลางการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่อย่างพร้อมเพรียง

นายปรีชา แสนรัตน์ ผู้ประสานงานเครือข่ายงดเหล้าจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวถึงการดำเนินงานโครงการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาในปี 2568 พบว่า ตำบลโพนสูงทั้ง 9 หมู่บ้าน มีประชาชนร่วมลงนามงดเหล้าเข้าพรรษาจำนวน 385 คน สามารถงดเหล้าครบพรรษาได้ 176 คน เป็นคนหัวใจเหล็ก 108 คน และคนหัวใจเพชร เลิกเหล้าตลอดชีวิตจำนวน 42 คน คิดเป็นมูลค่าการประหยัดค่าใช้จ่ายจากการดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน รวมกว่า 1,422,960 บาท หรือเฉลี่ยคนละ 3,696 บาท
นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าในพื้นที่ร่วมปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 9 ร้าน สะท้อนถึงความตื่นตัวของชุมชนในการลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรมว่า กิจกรรมมอบประกาศฯ เป็นการขับเคลื่อนงานรณรงค์ลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบมีส่วนร่วม โดยบูรณาการความร่วมมือจากหลายภาคส่วน อาทิ เทศบาลตำบลโพนสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านสามขาและบ้านจานใต้ วัดโพธิการาม และชมรมคนหัวใจเพชรตำบลโพนสูง ทั้งในมิติการชักชวนประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการจัดสภาพแวดล้อมในชุมชนให้เอื้อต่อการลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง

การดำเนินงานดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากพระเดชพระคุณพระครูโพธิวีรคุณ เจ้าคณะอำเภอปทุมรัตต์ ในการขับเคลื่อนงานวัดส่งเสริมสุขภาพ การบวชสร้างสุข และการจัดงานบุญปลอดเหล้า เพื่อร่วมกันลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน
ด้านเสียงสะท้อนจากประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการ นายเจษฎางกูณฑ์ ลาหล้าเลิศ อายุ 35 ปี ผู้สามารถงดเหล้าได้ตลอดช่วงเข้าพรรษา เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ โดยประกอบอาชีพทำฟาร์มม้าและฟาร์มวัว ก่อนหน้านี้ดื่มเบียร์เป็นประจำสัปดาห์ละ 4–5 วัน และมักเกิดปัญหาทะเลาะกับภรรยาเป็นครั้งคราว จึงตัดสินใจทดลองงดดื่มแอลกอฮอล์ตลอดช่วงเข้าพรรษา 3 เดือน เพื่อดูแลตนเองและครอบครัว
“ตอนแรกหลายคนบอกว่ายาก เพราะกลัวไม่มีสังคม แต่ผมแค่เลือกไม่ดื่ม ยังไปเจอเพื่อนได้เหมือนเดิม แค่เปลี่ยนมาดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำเปล่า ก็สนุกได้ไม่ต่างกัน” นายเจษฎางกูณฑ์กล่าว พร้อมระบุว่า หลังงดเหล้าแล้วชีวิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีเวลาว่างมากขึ้น เกิดไอเดียใหม่ ๆ ในการทำคอนเทนต์ขายสินค้าออนไลน์ ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ดีขึ้น และตั้งแต่เริ่มเข้าพรรษาจนถึงปัจจุบันเกือบ 6 เดือน ยังไม่กลับไปดื่มแอลกอฮอล์อีกเลย และตั้งใจจะงดเหล้าเบียร์ต่อไปในระยะยาว

ขณะที่นายไสว คำมูล อายุ 73 ปี คนหัวใจเพชรเลิกเหล้า เล่าว่า ตนเองเข้าร่วมโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 มีอาชีพทำนา ก่อนหน้านี้มีพฤติกรรมดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นประจำ จนเริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพและได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกระเพาะ “คุณหมอบอกตรง ๆ ว่า ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ก็ต้องเลิกดื่มเหล้า” คำแนะนำดังกล่าวทำให้ตัดสินใจเลิกเหล้าและเลิกบุหรี่อย่างจริงจังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
นายไสวกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเลิกเหล้าอย่างถาวร สุขภาพร่างกายดีขึ้นอย่างชัดเจน ทำงานได้นานขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย และครอบครัว โดยเฉพาะภรรยา ให้กำลังใจและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีแรงใจดูแลสุขภาพและดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขในปัจจุบัน

นอกจากนั้น นายปรีชา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้จังหวัดร้อยเอ็ดจากนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ให้ทุกภาคส่วนร่วมชวน ช่วย เชียร์คนงดเหล้าเข้าพรรษาตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่ปีนี้มีการลงชื่อตั้งใจงดเหล้าเข้าพรรษา และตั้งใจงดตลอดชีวิตผ่านระบบออนไลน์ของกรมควบคุมโรค ร่วมกับเครือข่ายงดเหล้า และ สสส. รวมกันกว่า 150,122 คน เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ
