แพทยสมาคม แห่งประเทศไทยฯ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการเตรียมการและร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมบุหรี่หรือสุขภาพ เอเซียแปซิฟิก ครั้งที่ 13 ( 13th Asia Pacific Conference on Tobacco or Health : APACT 2020 ) ร่วมกับองค์กรพันธมิตร โดยเป็นการประชุมเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการดำเนินงานด้านการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบอย่างยั่งยืนและสุขภาพของประเทศ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ณ อาคารเฉลิมพระบารมี ๕๐ ปี แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อเร็วๆ นี้
โดย ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์ นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “การจัดประชุม APACT 2020 ในระหว่างวันที่ 2-4 กันยายน 2563 ถือเป็นครั้งที่สองที่ประเทศไทย ซึ่งในครั้งนี้แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการ APACT ให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ จึงได้เชิญชวน 15 องค์กรพันธมิตร ร่วมจัดงานในครั้งนี้และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,000 คน จาก 40 ประเทศ ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการจัดการประชุม แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลงในการเตรียมความพร้อมในการจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร 16 องค์กร ได้แก่ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), กรุงเทพมหานคร, แพทยสภา, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่, ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.), เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่, เครือข่ายวิชาชีพแพทย์ในการควบคุมการบริโภคยาสูบ, มูลนิธิเพื่อสังคมอาเซียนปลอดบุหรี่ (SEATCA), Global Center for Good Governance in Tobacco Control (GGTC), บริษัท เซ็นทรัลกรุ๊ป จำกัด, สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป้าหมายของการจัดประชุม APACT 2020 จะมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้จากนานาประเทศ เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนเพื่อให้สังคมปลอดบุหรี่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในการประชุมมีการนำเสนอข้อมูลวิชาการเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการควบคุมยาสูบและสุขภาพต่าง ๆ และการจัดนิทรรศการองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง”
“แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ขอส่งหลักการแห่งสัญญาณนี้ต่อสาธารณชน ว่าจะร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร อย่างเข้มข้นในการเดินหน้าส่งเสริมการขับเคลื่อนเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ เพื่อยกระดับชุมชนไปสู่สังคมเพื่อสุขภาพที่ดีต่อไป” ศ.นพ.รณชัย กล่าว