พลโทสมชาติ หรุ่นศิริ ประธานธรรมาภิบาลแห่งชาติ เปิดเผยว่า “การบริหารบ้านเมืองในทุกๆมิตินั้น นายกรัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลเพื่อให้เป็นไปอย่างถูกต้องและเที่ยงธรรม และแม้กระทั่งการคัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งคณะกรรมการต่างๆก็ต้องคัดเลือกคนที่มีความเหมาะสม มีอุดมการณ์ มีภูมิหลังที่ดี ให้เข้ามาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะหากนายกรัฐมนตรี ไม่ลงมากำกับดูแล เมื่อหากเกิดปัญหาใดๆขึ้นก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบไปไม่ได้”
เสธ สมชาติ ยังกล่าวต่ออีกว่า” ปัจจุบันกำลังจะมีการคัดเลือกคณะกรรมการกีฬาอาชีพ ถึงแม้ว่าบทบาทหน้าที่จะเป็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมกับคณะกรรมการคัดเลือกที่ได้รับมอบหมาย แต่อย่างไรเสียนายกรัฐมนตรีก็ควรจะมาพิจารณาในแต่ละรายบุคคลที่จะเข้ามาทำงานเป็นคณะกรรมการกีฬาอาชีพ ถึงผลงานที่ผ่านมาว่ามีเกณฑ์การประเมินในการทำงานมากน้อยอย่างไร ภูมิหลังแต่ละรายบุคคลเป็นอย่างไร มีผลประโยชน์ร่วมหรือเคยมีผลประโยชน์ทั้งในฐานะส่วนตัวและในฐานะคณะกรรมการกับเจ้าพนักงานของรัฐที่เคยดำรงตำแหน่งอยู่หรือไม่”
ประธานธรรมาภิบาลแห่งชาติ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ นายกรัฐมนตรีต้องตรวจสอบข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้านอย่าปล่อยให้มีการวิ่งเต้นเพื่อให้เข้าไปเป็นคณะกรรมการกีฬาอาชีพ หากบางคนเป็นคู่กรณีที่มีความขัดแย้งกันเป็นทุนเดิม เมื่อเข้าไปทำงานก็จะเกิดปัญหาในความสมัครสมานสามัคคี อย่างนี้ประเทศชาติก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ การบริหารงบประมาณแผ่นดินของคณะกรรมการกีฬาอาชีพนั้นล้วนมาจากภาษีของประชาชนคนไทยทั้งชาติ ต้องให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล จึงได้รวบรวมประวัติภูมิหลังของผู้สมัครแต่ละคนเพื่อส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาประกอบกันไป โดยต้องยึดหลักคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๙ มาเป็นหลักที่ว่า “ต้องส่งเสริมคนดีๆให้เข้าไปปกครอง บริหารบ้านเมือง”ซึ่งหากทำได้อย่างนี้ประเทศชาติบ้านเมืองก็จะเดินหน้าต่อไปได้ อย่างมั่นคง”