“นมไทย-เดนมาร์ค” คว้ารางวัล Top Rising Brands ติดอันดับแบรนด์ยอดนิยม

องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค คว้ารางวัล Top Rising Brands ในหมวด Dairy ในงานแถลงข่าวและประกาศรางวัลแบรนด์ยอดนิยม “Kantar Brand Footprint Award 2019-Thailand” ซึ่งจัดอันดับแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสูงสุดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดยผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ภายใต้การบริหารจัดการขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทยติดอันดับคว้า Top Brand ตอกย้ำการเป็นผลิตภัณฑ์นมที่ครองใจผู้บริโภคอันดับต้นๆในไทย พร้อมปรับยุทธศาสตร์พัฒนาสินค้าใหม่ ชิงผู้นำตลาด ขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคไปยัง CLMV (กัมพูชา,ลาว,พม่า, เวียดนาม) เพื่อเพิ่มรายได้และดันผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คก้าวสู่ผู้นำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ดร.ณรงค์ฤทธิ์   วงศ์สุวรรณ   ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)

ดร.ณรงค์ฤทธิ์   วงศ์สุวรรณ   ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)  กล่าวว่า ทางอ.ส.ค. มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ปรับกลยุทธ์ เพิ่มไลน์สินค้าใหม่ และรุกทำตลาดผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2562 ส่งผลให้ อ.ส.ค. คว้ารางวัล “Top Rising Brands (Kantar Brand Footprint Award 2019-Thailand) ในหมวด Dairy นมไทย-เดนมาร์ค ถือเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตสูงสุดในกลุ่มผู้บริโภค  โดยรางวัลดังกล่าวถูกจัดลำดับโดยบริษัท กันตาร์ เวิล์ดพาแนล (Kantar Worldpanel) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ WPP เป็นผู้นำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึกโดยเฉพาะ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคแบรนด์ระดับโลกและในไทย ซึ่งบริษัททำการวิจัยเก็บรวบรวมและวิเคราะห์พฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคกลุ่มตัวอย่างที่ทำการซื้อเกี่ยวกับแบรนด์ยอดนิยมในประเทศไทยติดต่อกันปีนี้นับเป็นปีที่ 7 โดยมีการมอบรางวัลทั้งสิ้น 4 ประเภท รวมทั้งสิ้น 16 รางวัล ได้แก่ Most Chosen Brands, Top Rising Brands, Top Outstanding Local Brands และ Top Outstanding Retailler ในธุรกิจ FMCG และ Retail วิเคราะห์ประมวลผลด้วยดัชนี CRP หรือ Consumer Reach Point ซึ่งเป็นอัตราการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่ทำการพัฒนาขึ้นและเป็นเอกสิทธิเฉพาะของ Kantar 

มร.ฮาเวิร์ด ชาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันตาร์ จำกัด

มร.ฮาเวิร์ด ชาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันตาร์ จำกัด เปิดเผยถึง หลักการคัดเลือกแบรนด์ยอดนิยมนั้น สำรวจจากข้อมูลสถิติจำนวนครั้งที่ผู้ซื้อสินค้าต่างๆ เลือกซื้อ โดยนับย้อนหลัง 5-12 สัปดาห์ พบว่าผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค เป็นแบรนด์มีอัตราส่วนเติบโตที่สุด ซึ่งคำนวณแบบประมาณการพบว่าสัดส่วนสูงขึ้นเพิ่มจาก 30 ล้าน เป็น 35 ล้าน แสดงให้เห็นว่าแบรนด์มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น โดยสำรวจข้อมูลรายสัปดาห์จาก 4,000 กว่าครัวเรือน ซึ่งได้ทำการบันทึกข้อมูลมาตั้งแต่ปี 1999 นั่นแสดงให้เห็นว่าการที่ลูกค้าเลือกซื้อสินค้ามากขึ้นเท่าไหร่ แสดงให้เห็นถึงความเจริญเติบโตของแบรนด์เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ “Kantar Brand Footprint Award 2019-Thailand” ยังเชิญผู้บริหารแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในแต่ละแบรนด์ เพื่อมาแชร์ประสบการณ์ กลยุทธ์ด้านทำการตลาดอย่างไรให้จะประสบความสำเร็จ โดยมีทั้งหมด 16 รางวัล โดยได้จากการสำรวจข้อมูลที่เกิดขึ้นเกิดจริงจากพฤติกรรมการซื้อขายของ Consumer panel 4000 sample เป็นระบบครัวเรือน และในปีต่อไป 90% จะใช้ตัวชีวัดแบบเดิม ขึ้นอยู่กับสภาพเทรนของตลาด เช่น เกี่ยวกับพลาสติก ลดบรรจุภัณฑ์พลาสติก ก็อาจจะมีการเพิ่มรางวัลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมขึ้น เป็นต้น

ดร.ณรงค์ฤทธิ์   กล่าวต่อว่า  รางวัลดังกล่าวถือเป็นแรงจูงใจและแรงกระตุ้นสำคัญ  ในการทำให้ อ.ส.ค. เร่งพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์นมเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ด้วยการเร่งปรับแผนขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคครบทุกวัยมากขึ้นโดยที่ผ่านมา อ.ส.ค. ได้ทำตลาดนมพร้อมดื่มยูเอชทีร่วมกับบริษัท แมคไทย เพื่อจำหน่ายนมไทย-เดนมาร์คในกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นมีอายุตั้งแต่ 15-22 ปี  รวมทั้งได้ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ในการวิจัยและพัฒนาในกลุ่มวิจัยต่างๆ เพื่อเพิ่มอำนาจในการแข่งขัน และผลักดันให้ อ.ส.ค. ก้าวสู่ผู้นำด้านอุตสาหกรรมนมได้อย่างเข้มแข็งและมั่นคงด้วยการเติมเต็มตลาดในประเทศให้ครบทุกวัย

ปัจจุบันนมไทย-เดนมาร์คมีส่วนแบ่งตลาดนม ยูเอชที ในกลุ่ม General Milk เป็นอันดับ 2 มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 36%  ของตลาดกลุ่มนมยูเอชที โดยในปี 2562 นี้ อ.ส.ค. กำหนดยอดจำหน่ายโดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 10,160 ล้านบาท โดยปัจจุบัน อ.ส.ค. ถือได้ว่าทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว ประมาณ 87 % นอกากนี้ อ.ส.ค. เร่งปรับแผนขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลายครบทุกวัยมากขึ้น จากรุ่นคุณพ่อคุณแม่ สู่รุ่นลูก และทุกคนในครอบครัว ควบคู่กับเร่งปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยได้มาตรฐาน ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์นมยูเอชที นมพาสเจอร์ไรส์ นมออร์แกนิก และผลิตภัณฑ์โยเกิร์ต และไอศกรีม อ.ส.ค. ยังได้ขยายส่วนของผลิตภัณฑ์นมเย็น เปิดเป็นคาเฟ่นมไทย-เดนมาร์ค คือ Thai-Denmark Milk Shop ที่เปิดในสถาบันการศึกษา Thai-Denmark Milk Land เป็นร้านคาเฟ่นมที่เปิดตามห้างสรรพสินค้า Community mall ตลอดจนเปิดแฟรนไชส์ให้โอกาสนักธุรกิจที่สนใจเปิดร้านนม Thai-Denmark Milk Land อีกด้วย ซี่งในปี 2562 นี้ นับได้ว่ามีการขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมเย็นของไทย-เดนมาร์ค อย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี การขยายธุรกิจตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์เพิ่มการแข่งขัน และผลักดันให้ อ.ส.ค. ก้าวสู่ผู้นำด้านอุตสาหกรรมนมได้อย่างเข้มแข็งและมั่นคงด้วยการเติมเต็มและเข้าถึงตลาดในประเทศไปยังทุกกลุ่มผู้บริโภคอีกด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *