ตามที่ สถาบันการยุติธรรมแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินโครงการจ้างตกแต่งภายในและงานระบบโสตทัศนูปกรณ์ พร้อมอุปกรณ์ ซึ่งอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณของกระทรวงยุติธรรม นั้น
นายณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการธรรมาภิบาลแห่งชาติ และประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต ได้เปิดเผยว่า “ เท่าที่ได้ตรวจสอบการกำหนดขอบเขตงาน ยังมีข้อกำหนดที่ต้องเรียนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ให้ทบทวนใหม่ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 16 และมาตรา 17 ซึ่งอาจจะเป็นการกำหนดคุณสมบัติทางด้านเทคนิคที่ชี้เฉพาะเจาะจง และจำกัดขอบเขตของงานมากเกินไป
นายณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ได้กล่าวต่ออีกว่า “เมื่อตรวจพบการดำเนินโครงการดังกล่าว จึงได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ไปเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 เพื่อให้ทบทวนข้อกำหนดขอบเขตของงานในการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ เพื่อประโยชน์ของกระทรวงยุติธรรม
และเป็นการเปิดกว้างสำหรับผู้ที่จะเข้ามายื่นประมูลจัดซื้อจัดจ้าง จะทำให้กระทรวงยุติธรรมสามารถคัดเลือกผู้เข้ารับการประมูลที่หลากหลายมากขึ้น เกิดการแข่งขันมากขึ้น ไม่เป็นการกีดกันการแข่งขัน สามารถใช้งบประมาณบริหารราชการแผ่นดินได้เกิดประโยชน์สูงสุด และเกิดหลักความคุ้มค่า
เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการธรรมาภิบาลแห่งชาติ และประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ต้องตรวจสอบประกาศการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการดังกล่าวใหม่เสียก่อน เมื่อมีข้อท้วงติง
ควรจะเลื่อนหรืองดการประกาศออกไปเพื่อกำหนดแนวทางที่ดีที่สุด ตามพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 55 และมาตรา 58 และเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงคุณธรรม ตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป”