คุมเข้มสงกรานต์ วอนบังคับใช้กฎหมายจริงจังเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนทั่วไปตลอดจนนักท่องเที่ยว
ห่วงอุบัติเหตุพุ่งช่วงสงกรานต์ พบสถิติช่วงหลังโควิด ปี 65 เสียชีวิตสูงกว่าเมื่อเทียบกับช่วงโควิดระบาด วอนผู้ว่าฯ กทม. คุมเข้มสงกรานต์ปลอดเหล้าปลอดภัย สกัดปัญหาเมาซิ่ง ลวนลามทางเพศ วอนบังคับใช้กฎหมายจริงจัง ตั้งจุดรับเรื่องร้องเรียน พร้อมกลไกระงับเหตุ
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 66 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต และเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง กว่า 50 คน เดินทางมารณรงค์ สงกรานต์ 2566 “สาดไม่ดื่ม ไม่ซิ่ง” กับทาง กรุงเทพมหานครโดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมปล่อยขบวนสามล้อ จักรยานยนต์รณรงค์ และรับมอบสื่อประชาสัมพันธ์จากนางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
และในตอนท้ายเครือข่ายได้ยื่นหนังสือสนับสนุนมาตรการคุมเข้มช่วงสงกรานต์ของ กทม. ให้ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการคุกคามทางเพศ พร้อมเสนอให้จัดหน่วยรับแจ้งเหตุไม่พึงประสงค์ในพื้นที่เล่นน้ำ สร้างความปลอดภัยให้คนทุกช่วงวัยตลอดจนนักท่องเที่ยว
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ได้วิเคราะห์ข้อมูล จากระบบบูรณาการข้อมูลการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน (ข้อมูล 3 ฐาน) พบว่า ในปี 2562 ก่อนโรคโควิด-19 ระบาด อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ช่วงสงกรานต์อยู่ที่ 25.2 รายต่อประชากรหนึ่งแสนคน ปี 2563 ซึ่งมีโรคโควิด-19 ระบาด อุบัติเหตุลดลงมาอยู่ที่ 10.9 รายต่อแสนประชากร เนื่องจากมีคำสั่งห้ามจัดกิจกรรมสงกรานต์ ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ส่วนปี 2565 หลังการระบาดเริ่มคลี่คลาย ก็พบว่าตัวเลขอุบัติเหตุกลับมาสูงขึ้น อยู่ที่ 27.2 รายต่อแสนประชากร ดังนั้นในปีนี้ หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงคาดการณ์ว่าอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตบนท้องถนนจะเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเตรียมการอย่างเต็มที่ เพราะเป็นปีแรกที่กลับสู่ภาวะปกติหลังโควิด-19 ระบาด มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน
ซึ่งหากปล่อยปละละเลยอาจทำให้เกิดความเสี่ยงและสูญเสียเกิดขึ้นได้ สสส.และภาคีมุ่งหวังให้เทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ ประชาชนจะมีความตระหนักในการเล่นสงกรานต์ที่ปลอดภัย โดยการดื่มไม่ขับ ไม่ดื่มสุราบนรถขณะอยู่ในทาง ไม่ทะเลาะวิวาท ใช้ความรุนแรง ไม่ลวนลาม ฉวยโอกาส จึงร่วมกับกรุงเทพมหานคร ที่จะช่วยกันในการดูแลพื้นที่เล่นน้ำในหลายพื้นที่ให้ปลอดภัย ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมายและร่วมสืบสานประเพณีที่ดีงาม
ด้าน นางสาวเครือมาศ ศรีจันทร์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต กล่าวว่า เครือข่ายฯ มีความห่วงใย และมีข้อเสนอไปยังกทม. ดังนี้
1. ขอสนับสนุนนโยบาย กทม. ที่ระบุให้พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และขอให้เพิ่มการเฝ้าระวังป้องกัน ปัญหาการคุกคามทางเพศทุกรูปแบบ เพื่อสร้างความปลอดภัยกับคนทุกช่วงวัย
2.เร่งประชาสัมพันธ์ และเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับความผิดซึ่งเป็นผลมาจากการดื่ม อาทิ การดื่มแล้วขับ ดื่มบนรถขณะอยู่บนทาง ทะเลาะวิวาท ตลอดจนความผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 รวมถึงพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายอาทิ การลวนลาม คุกคามทางเพศ
3. ขอให้กำหนดจุดรับเรื่องร้องเรียน กรณีเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ มีกลไกช่วยเหลือ ระงับเหตุที่ทำได้จริง
และ 4. ขอเรียกร้องต่อประชาชน นักท่องเที่ยว ให้ช่วยกันเฝ้าระวัง เมื่อพบพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เทศกิจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่