ผู้ประกอบการเมืองเชียงใหม่ ลั่นกลางวงเสวนา ไม่เห็นด้วยเปิดผับตี 4 อย่าเอาอบายมุขเป็นจุดขายต่างชาติ หยุดแนวคิดขยายพื้นที่ดำเนินการ แค่ 5 จังหวัดท่องเที่ยวไฟเขียวเปิดยันสว่างผลกระทบก็มากพอแล้ว เตือนผู้ประกอบการรับผิดชอบต่อสังคม
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม นางสาวชนม์นิภา ขาวละออ ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงผลการจัด เสวนา “คนเจียงใหม่ คิดอย่างไร ผับปิดตี 4” โดย สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว และเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา ว่า หลังรัฐบาลประกาศให้สถานบริการในพื้นที่นำร่องเปิดบริการได้จนถึงตี 4
ซึ่งหนึ่งในนั้นมี จ.เชียงใหม่รวมอยู่ด้วย เราจึงต้องจัดเสวนานี้ขึ้นเพื่อ แลกเปลี่ยนมุมมองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับนโยบายนี้ของรัฐบาล ซึ่งเราเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 นั้นทำให้เราค่อนข้างกังวลใจว่า จะสร้างผลกระทบกับประชาชน ทั้งผลจากอุบัติเหตุ ความปลอดภัยในสังคม ชุมชนด้านต่างๆ ผลกระทบจากเสียงดังรบกวน
ด้าน นายธีรวุฒิ แก้วฟอง ผู้ประกอบการร้าน MY BEER FRIEND กล่าวว่า ตนรู้สึกเฉยๆ กับนโยบายนี้ เพราะร้านของตนและร้านส่วนใหญ่ในเมืองเชียงใหม่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขที่สามารถให้เปิดบริการถึงตี 4 ทั้งนี้ ตนเข้าใจว่าเป็นความพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ แต่ส่วนตัวเห็นว่า ยังไม่ใช่นโยบายที่ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์จริง
สิ่งที่รัฐควรจะปรับ คือเรื่องเวลาขายที่ห้ามขายในช่วงกลางวันมากกว่า และสร้างจิตสำนึกให้ผู้ประกอบการมีความรับผิดชอบด้วย ไม่ขายให้เด็ก ไม่ขายให้คนเมา คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคนในสังคม อย่างไรก็ตาม โดยสรุปแล้ว ตนเห็นว่า นโยบายนี้ไม่ควรขยายไปสู่จังหวัดอื่น ขนาดลองทำใน 5 จังหวัดที่เป็นแหล่งแหล่งท่องเที่ยว ชุมชนยังได้รับผลกระทบขนาดนี้ ประเทศไทยไม่จำเป็นจะต้องโชว์จุดขายว่าขายเหล้าปิดดึก มีเรื่องอื่นมากมายที่ควรทำเพื่อดึงดูดใจนักท่องเที่ยว ควรออกแบบเมือง สร้างขนส่งมวลชนให้เอื้อต่อการท่องเที่ยว
นางลดา อินทวงศ์ ประธานชุมชนย่านช้างม่อย ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า พอได้ยินนโยบายนี้มาก็ถึงกับสะดุ้ง เพราะเป็นนโยบายที่สร้างผลกระทบต่อคนในชุมชนเป็นอย่างมาก ขนาดตอนยังไม่ขยายเวลา นักท่องเที่ยวและร้านเหล่านี้ยังส่งเสียงดังรบกวนคนในชุมชน นักท่องเที่ยวบางคนเมาสร้างความวุ่นวาย ทะเลาะวิวาท มีเพศสัมพันธ์กันข้างเสาไฟฟ้าริมถนน เข้าใจว่าผู้ประกอบการมีการลงทุนกับธุรกิจนี้ และต้องทำมาหากิน แต่ไม่อยากให้สร้างปัญหาให้กับคนในสังคม คนในชุมชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายนี้
นายชัยวัฒน์ ภู่รอด อาจารย์สถานศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การที่ออกนโยบายมาก่อน แล้วค่อยแก้ปัญหาทีหลังเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้เพราะเชื่อว่าได้ไม่คุ้มเสีย และสถานศึกษาที่ตนเองสอนก็ตั้งอยู่กลางเมืองใกล้สถานบริการและใกล้กับจุดเกิดเหตุที่นักท่องเที่ยวชนคนงานเอาสายไฟฟ้าลงถนนเสียชีวิต ดังนั้น การขยายเวลาเปิดผับจะทำให้ นักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษาได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน จึงเห็นว่าไม่ควรขยายเวลาเปิดสถานบริการแบบนี้ และไม่ควรขยายไปสู่พื้นที่อื่นๆ.