4 จังหวัดนำร่องเปิดผับตี 4 อ้างกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ตัวเลขคนตายจากเมาแล้วขับ พุ่ง 80% ถามเจ็บ “รัฐบาล” ต้องให้คนเจ็บ-ตาย เท่าไหร่ถึงยอมรับได้ เพื่อแลกกับเศรษฐกิจนายทุน
“หมอคำนวณ” เปิดตัวเลขคนตายจากเมาแล้วขับ พุ่ง 80% ใน 4 จังหวัดนำร่องเปิดผับตี 4 ถามเจ็บ “รัฐบาล” ยอมให้คนเจ็บ-ตาย เท่าไหร่ถึงยอมรับได้ แลกกับเศรษฐกิจนายทุน ระบุ หากเดินหน้าขายไร้การควบคุมตายเพิ่มอีก 10 เท่า กว่า 1 ใน 4 เป็นแค่ตาสีตา คนทำมาหากิน “เจ้าอาวาสวัดดัง สุโขทัย” นำเครือข่ายเข้าพบ “สมศักดิ์” 19 กพ. วอนบอร์ดนโยบายน้ำเมาไม่เพิ่มเวลาขายเหล้าเบียร์ ซ้ำเติมปัญหาอบายมุขล้นประเทศ
วันที่ 18 ก.พ.2567 นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุขในคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ขอขอบคุณคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่รับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน และมีมติไม่เห็นชอบให้เพิ่มเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยยืนยันหลักการสำคัญว่า การพัฒนาเศรษฐกิจต้องไปคู่กับการพัฒนาสังคมให้น่าอยู่ ประชาชนสุขภาพดี ได้รับความเสมอภาค และปราศจากภัยอันตรายที่ไม่จำเป็น
จากการติดตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว โดยขยายเวลาปิดสถานบริการในเวลาตี 4 ในพื้นที่สี่จังหวัดนำร่องได้แก่ กทม. เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต และเกาะสมุย ซึ่งมีสถานบริการขึ้นทะเบียนประมาณ 1,800 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.2566 พบว่าได้สร้างผลกระทบชัดเจน โดยดูจากฐานข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด พบผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในเดือนม.ค. 2567 ในพื้นที่นำร่อง รวม 205 ราย เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงเดือนม.ค. 2566 ที่ยังไม่มีนโยบายดังกล่าว ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 49 ราย คิดเป็น 31 %
หากวิเคราะห์เฉพาะช่วงเวลา 02.00-05.59 น. ที่ตรงกับช่วงเวลาที่ขยายเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลังมีนโยบายพบการเสียชีวิต 18 รายเพิ่มจากปีก่อน 8 ราย หรือเพิ่มขึ้น 80% แนวโน้มนี้เหมือนกันทั้ง 4 จังหวัด ฉะนั้นจึงยืนยันได้ว่า นโยบายขยายเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้สถานบริการเกิดผลกระทบรุนแรงคือเพิ่มการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในช่วงเวลาเช้าตรู่อย่างน้อยที่สุด 8 รายต่อเดือน หรือประมาณ 100 รายต่อปี
“คำถามคือ การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นของประชาชนในพื้นที่นำร่องเท่าไรที่รัฐถือว่ายอมรับได้ เพื่อแลกกับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่วนใหญ่จะตกกับผู้ประกอบการธุรกิจสุรา และผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คำตอบนี้ผู้กำหนดนโยบายต้องให้แนวทางมา เช่น หากมีการเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10 % จะยอมรับได้ แต่หากถามบุคลากรทางการแพทย์และทางสาธารณสุขหรือชาวบ้านธรรมดาคงตอบไม่ยากว่า เขาจะไม่ยอมแลกชีวิตกับเงิน”นพ.คำนวณ กล่าว
นพ.คำนวณ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ รัฐบาลไม่ควรสนับสนุนการขยายเวลาขายแอลกอฮอล์ให้กับร้านอาหารเพิ่มเติมอีก เพราะจะมีผลทำให้คนเสียชีวิตเพิ่มอีก 5-10 เท่า หรือประมาณ 500-1000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ไม่เพียงเฉพาะคนที่ดื่มเท่านั้น แต่อาจมีถึง 1 ใน 4 ที่เป็นชาวบ้านธรรมดา คนทำมาหากิน แม้กระทั่งตำรวจที่ปฏิบัติหน้า ต้องเสียชีวิตเพราะถูกคนเมาขับรถชน ยังไม่นับรวมที่พิการอีกจำนวนมาก
ตนเห็นว่า รัฐบาลสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้โดยไม่ส่งเสริมการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการวิจัยต่างสอดคล้องกันว่าการดื่มแอลกอฮอล์แม้ไม่ถึงระดับมึนเมาแต่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ทำลายทรัพยากรบุคคลที่ควรสร้างเศรษฐกิจให้ประเทศ เกิดการทะเลาะวิวาทเป็นคดีความเพิ่มขึ้น ความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้น และเกิดหนี้สินครัวเรือนมากขึ้น
ด้านพระครูสุมณฑ์ ธรรมธาดา ผศ.ดร เจ้าอาวาสวัดคลองกระจง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย และผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า วันที่ 19 ก.พ.นี้ทางเครือข่ายงดเหล้าสุโขทัย ในฐานะคนบ้านเดียวกันกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ จะเดินทางไปร่วมให้กำลังใจรองนายกฯ และขอให้คณะกรรมการนโยบายฯ ที่จะประชุมลงมติพิจารณาวาระการเพิ่มเวลาขายเหล้าเบียร์ ยึดผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนมากกว่า ประโยชน์ทางการท่องเที่ยวหรือเศรษฐกิจ เพราะการเพิ่มเวลาขายสุราเหมือนเป็นการเพิ่มเวลาให้คนดื่มมากขึ้น เมามากขึ้น ขณะเดียวกันก็อันตรายมากขึ้นโดยไม่มีมาตรการอะไรรองรับ ไม่อยากให้คนไทยต้องมาถูกซ้ำเติมจากนโยบายที่ได้ไม่คุ้มเสียแบบนี้
“อาตมาเห็นว่า เวลาขายตามเดิมดีอยู่แล้ว แล้วจะไปแก้ไขทำไม เพราะทุกวันนี้ตามหน้าสื่อก็มีแต่ข่าวคนเมาก่อเรื่องสร้างความเดือดร้อน กฎหมายที่จำกัดไว้นี้เหมือนเป็นฝายเล็กๆ ที่พอจะสกัดกั้นน้ำเมาไม่ให้สะดวกซื้อสะดวกขายสะดวกเจ็บพิการตายมากเกินไป จึงอยากขอร้องไปถึงผู้แทนกระทรวงต่างๆ ทั้ง 9 ท่าน โดยเฉพาะกระทรวงด้านสังคม เช่น กระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาสังคมฯ มหาดไทย และยุติธรรม ในฐานะที่ท่านดูแลสุขทุกข์ทางสังคมย่อมรู้แก่ใจว่าผลกระทบเป็นอย่างไร อาตมาก็อยากจะก้าวล่วงไปถึงกระทรวงที่เน้นเศรษฐกิจด้วย เช่น กระทรวงท่องเที่ยว กระทรงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และท่านปลัดสำนักนายกฯ เวลานี้อบายมุขก็มากเกินพอแล้ว ทั้งบุหรี่ไฟฟ้า กระท่อม กัญชา ขออย่าให้ขยายเวลาขายเหล้ามากกว่านี้อีกเลย บทเรียนจากนโยบายกัญชาก็สร้างปัญหามากพอแล้ว” เจ้าอาวาสวัดคลองกระจง กล่าว.
