จากสถานะการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาที่ผ่านมาหลายธุรกิจแทบเอาตัวไม่รอด โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม ที่แทบจะล้มทั้งยืน หากแต่ต้องฝืนยืนสู้เพื่อให้ผ่านวิกฤตไปให้ได้ ดังนั้นท่องเที่ยวนิด้าจึงจับมือภาคเอกชนชั้นนำของประเทศ เรียนรู้ระบบมาตรฐานโรงแรมระดับโลก เพื่อพัฒนาต่อยอดสร้างรายได้สู่ความยั่งยืน
กรุงเทพฯ : ธุรกิจโรงแรมหลังวิกฤตไวรัสโคโรน่า 2019 ย่อมปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม ปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นผลักดันให้ธุรกิจโรงแรมต้องหาโอกาสสร้างรายได้ที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติคุณภาพกลุ่มใหม่และนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต ทำให้โรงแรมชั้นนำของประเทศไทยปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป
ล่าสุดสถาบัณบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ คณะการจัดการการท่องเที่ยว บัณฑิตศึกษาปริญญาโทนิด้ารุ่นที่ 25 และ 26 ได้รับการต้อนรับจาก มร.สุขมาล มอนเดล สมาชิกสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมด้านการเดินทางท่องเที่ยว (ไทย) ผู้จัดการทั่วไปภาคพื้นที่ โรงแรมอมารีกรุงเทพ และ ออนิกซ์ พรอพเพอร์ตี้ และ ปัณพร วงษ์จันทร์เพ็ญ นายกสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมด้านการเดินทางท่องเที่ยว (ไทย) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พอลล่าแอนด์โค ดีเอ็มซี (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมถ่ายทอดความรู้การทำธุรกิจโรงแรมอย่างยั่งยืนรูปแบบมาตราฐานสากลระดับโลก
โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ เปิดให้บริการบนถนนเพชรบุรี ทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ภายหลังวิฤตไวรัสโคโรน่า 2019 โรงแรมแห่งนี้ออกแบบใหม่ในธีม “Contemporary Thainess” พร้อมโชว์ความแกร่งด้านการจัดการประชุมในตลาด MICE จับกลุ่มตลาดกิจกรรมพิเศษจัดประชุมภายในประเทศพร้อมส่งเสริมเรื่องความยั่งยืนภายในองค์กร สนับสนุนสินค้าผลิตจากธรรมชาติและผลิตท้องถิ่น ลดภาวะโลกเดือด พร้อมปลุกจิตสำนึกคนในองค์กรด้านความยั่งยืน
ซึ่งภายในกิจกรรมนักศึกษาปริญญาโทได้มีการเยี่ยมชมโรงแรมชุดห้องพักประกอบด้วยนวัตกรรมต่างๆ ห้องประชุม ภัตตาคารร้านอาหาร แปลงปลูกผักปลอดสารพิษ โรงคัดแยกขยะและเครื่องย่อยเศษอาหาร ทำให้นักศึกษาเรียนรู้รูปแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืนของธุรกิจโรงแรมอย่างจริงจังครบทุกมิติ อีกทั้งยังมีโซนประชุมพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ พร้อมให้บริการนักธุรกิจที่จะเดินทางมาร่วมประชุมจากทั่วโลก
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรรษิดา บุญญาณเมธาพร ผู้อำนวยการหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต สาขาการจัดการการท่องเที่ยวและบริการการแบบบูรณาการ คณะการจัดการการท่องเที่ยว สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยว่า “การศึกษาเรียนรู้นอกห้องเรียนในครั้งนี้ ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ ได้เรียนรู้ถึงความมุ่งมั่นของโรงแรมต่อหลักการด้านสังคม สิ่งแวดล้อมและการกำกับดูแล (ESG) การดำเนินการตามหลักการ ESG
ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงของโรงแรมและสร้างรายได้ให้กับชุมชนคนไทยอย่างเป็นรูปธรรม สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวสำหรับการเดินทางที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในระยะยาว
การศึกษาเรียนรู้ครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในรายวิชาการศึกษาตามแนวแนะของนักศึกษาปริญญาโท เพื่อบูรณาการองค์ความรู้ใหม่ธุรกิจโรงแรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการให้แก่นักศึกษา เน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นักศึกษาสามารถบูรณาการด้านแนวคิด ทฤษฎี และลงมือปฏิบัติจริงในธุรกิจการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมปลูกฝั่งให้นักศึกษาตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืนธุรกิจท่องเที่ยวต่อไป”